นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงการติดตามนายจ้างให้แจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกันสังคม ปี 2533 ว่า กฎหมายได้กำหนดให้นายจ้าง ซึ่งมีลูกจ้างทำงานในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป หรือกรณีมีลูกจ้างเข้าทำงานใหม่ นายจ้างต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03) ต่อสำนักงานประกันสังคม
สำหรับนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นแบบที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ส่วนนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นแบบขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด สาขา ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ซึ่งนายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีลูกจ้างลาออกจากงาน ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09) พร้อมระบุสาเหตุการออกจากงาน หรือกรณีที่ผู้ประกันตนเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน (สปส.6-10)ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ผ่านระบบ e-Service ได้ที่ www.sso.go.th ของสำนักงานประกันสังคมได้ทันที
ทั้งนี้ขอเตือนนายจ้างรีบดำเนินการแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ข้อมูลผู้ประกันตนซึ่งเป็นข้อมูลหลักในระบบฐานทะเบียนเป็นปัจจุบัน ส่งผลให้ลูกจ้างได้รับสิทธิความคุ้มครองตามกฎหมายประกันสังคม
ซึ่งหากพบนายจ้างมีเจตนาหลีกเลี่ยง ล่าช้า จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด สาขา ทั่วประเทศ หรือที่สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง