30 พฤษภาคม 2566 จากกรณี "ส่วยสติกเกอร์" ร้อนระอุ เมื่อ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาแฉอย่างต่อเนื่อง กรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกินไม่ว่าคันไหน เมื่อติด "สติ๊กเกอร์ส่วย" ซึ่งทำเป็นรูปพระอาทิตย์ยิ้ม ตัวรูปการ์ตูน และมีอีกหลากหลายรูปแบบ สามารถผ่านได้ทุกด่าน ไม่ว่าจะบรรทุกน้ำหนักเกินแค่ไหนก็ตาม
ร้อนถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เก้าอี้ร้อน สั่งตำรวจทางหลวง ตรวจสอบโดยด่วน หากพบตำรวจเกี่ยวข้อง ดำเนินการทางวินัย-อาญา อย่างเด็ดขาด กระทั่งผู้การทางหลวง ตั้งคณะทำงานสอบ “สติ๊กเกอร์ส่วยรถบรรทุก” ย้ำอย่าอ้างอาชีพตำรวจไม่พอกิน ให้ไปทำอาชีพอื่นแทน เร่งแก้ต้นเหตุรถบรรทุกเกินน้ำหนัก เตรียมพิจารณายึดรถ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด วันนี้ (30 พ.ค.) ที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า กรณีสติ๊กเกอร์ส่วยทางหลวงนั้น ยอมรับว่า มีมานานแล้ว ซึ่งในอดีตสติ๊กเกอร์แต่ละแบบใช้ได้ในพื้นที่บริเวณกว้างหลายจังหวัด
อย่างไรก็ตามในช่วงหลังๆ เปลี่ยนเป็นใช้ได้เฉพาะพื้นที่แคบลง เช่น ใช้วิ่งได้เฉพาะเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งที่ไม่ข้ามจังหวัด หรือใช้วิ่งได้เฉพาะโซนจังหวัดใกล้เคียงกันเท่านั้น จึงทำให้มีสติ๊กเกอร์หลายรูปแบบ แต่ละแบบใช้ได้เฉพาะเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเท่านั้น
ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากผู้ประกอบการรถขนส่งหนักส่วนใหญ่ จะเป็นผู้รับเหมาเฉพาะท้องถิ่น ที่จะขนหิน ดิน ทราย วิ่งไม่ไกลนัก เพราะการบรรทุกหิน ดิน ทราย ส่วนใหญ่จะบรรทุกเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด เพื่อที่จะสามารถขนหิน ดิน ทราย ได้ในปริมาณมากๆ โดยใช้เที่ยววิ่งน้อยลง
ดังนั้นผู้ประกอบการเหล่านี้จึงต้องซื้อ "สติ๊กเกอร์ส่วย" มาติด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกตรวจจับน้ำหนักเกิน โดยสติ๊กเกอร์เหล่านี้จะมีกลุ่มผู้มีอิทธิพล ไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่ไว้ และทำสติ๊กเกอร์มาขายให้ผู้ประกอบการที่ต้องการบรรทุกเกินติดรถไว้ ซึ่งจะขายในราคาตั้งแต่ 3,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นบาท แล้วแต่พื้นที่เล็กหรือใหญ่ กลายเป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการซึ่งทำถูกต้องตามกฎหมาย ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งไม่เป็นธรรมเลย
ขณะเดียวกันกฎหมายที่เอาผิดเฉพาะคนขับรถ โดยไม่ได้เอาผิดถึงเจ้าของรถ ก็ควรที่จะแก้ไขเสีย เพราะส่วนใหญ่เจ้าของรถจะเป็นคนสั่งให้บรรทุกเกินเอง
ทั้งนี้ทางสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเก็บส่วนทางหลวงลักษณะนี้ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการทุจริตคอรัปชัน เสียหายกับหน่วยงานภาครัฐแล้ว ยังทำให้ผู้ประกอบการที่ทำถูกกฎหมายถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการที่กระทำผิดกฎหมาย และยังทำให้รัฐบาลต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ปีละหลายหมืนล้านบาทอีกด้วย
"สภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงขอเรียกร้องให้มีการปราบปรามส่วยสติ๊กเกอร์หมดไปจากประเทศไทยอย่างจริงจัง"