สืบเนื่องจากประเด็นร้อนๆ กรณีที่ก่อนหน้านี้ มีประเด็นเดือดระหว่าง "นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" และ "ทนายตั้ม ษิทรา" ออกมาแฉกันถึงเรื่องต่างๆ จนทางด้าน "คุณปุ๊ก สรปุก" อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง เพื่อนสนิทของทนายตั้ม ออกมาส่งโพสต์เตือน โพสต์ห้าม หวังดีด้วยการเตือนสติเพื่อนรัก ด้วยความห่วงใย วอนขอให้เพื่อนรักหยุด ด้วยใจความสุดประทับใจ "เหมือนเห็นเพื่อนกำลังเดินไปตาย"
มหากาพย์ดรามา ที่ลุกลามจนเต็มฟีด เป็นที่จับตาจับจ้องของคนในสังคม ระหว่างป๋าชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับ ทนายดัง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" จนถึงขั้นฟ้องร้องกันมาแล้ว ต่างฝ่ายต่างแฉข้อมูลลับๆ กันไปกันมา จนสุดท้ายร้อนจน ปุ๊ก สรปุก อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เพื่อนสนิทของทนายตั้ม ออกมาโพสต์ว่า ตั้มหยุดเถอะ
ในส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านทนายดังในข่าว ทนายแฟชั่น ทนายเพื่อรัก "ทนายตั้ม" ทนายษิทรา ก็เคลื่อนไหวทางเฟซบุ๊กวันสุดท้ายคือวันที่ 2 เมษายน 2566
กระแสร้อนๆ เที่ยวล่าสุด
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2566 คุณปุ๊ก สรปุก เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก Pook Sukonta Berthebaud โดยในโพสต์ของเธอนั้น ได้พูดถึง รายละเอียด MV ธาตุทองซาวด์ ของ ยังโอม (Youngohm) และยังชื่มชมการกล้าที่จะลงทุน และความเต็มที่กับเพลง
โดยจากโพสต์ดังกล่าว ก็มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ถามถึง เพื่อนสนิท ซึ่งอาจจะหมายถึง ทนายคนดัง ระบุว่า "เพื่อนรักหายไปไหนครับ" ซึ่งทาง ปุ๊ก สรปุก ก็ได้ตอบกลับว่า
ตั้งแต่โพสต์ไป เขาก็ไม่พูดด้วยอีกเลยค่ะ
พร้อมกับมีอิโมจิร้องไห้
ฟังคำถามตรงๆ กันแบบนี้ ก็ได้แต่จึ้งๆๆๆ หรือจะสุดซึ้งกันไปตามระเบียบ ไม่รู้ว่ากระแสเงียบไปแบบนี้ โกรธกันจริงหรือป่าว (คุ้นๆ ว่าเนื้อเพลงยุค90) หรือจะแค่แอบงอนเพื่อนรักชั่วคราวนะจ้ะปุ๊ก หรือว่าอาจจะแอบตัดสายสะดือ หรือสายสัมพันธ์กันไปเลยนะเนี่ย #ด้วยความคิดถึง
ชาวเน็ตยังตามต่อ ที่โพสต์ล่าสุด!!
มีคนบอกว่าชอบคนหยาบคายมากกว่าเพราะจริงใจ คนพูดจาดีคือตอแหล เผยด้านสว่าง ปิดบังด้านมืดไว้ทำร้ายคนอื่น มันคืออัลไล๊ คนเราสามารถพูดจาดีต่อกัน เพราะเขาเป็นคนมีมารยาทก็ได้ไงเตง คนตรงปากหมา สันดานเสียมีเยอะแยะ เพราะฉะนั้นความสุภาพ ความหยาบ ไม่เกี่ยวกับนิสัยอะไรเลย พูดจากูมึง คบกันมาตั้งแต่เด็ก เลิกคบกันเพราะชักดาบเงินหลักร้อยก็มี ส่วนคนที่พูดจาดี เขาก็อาจหันมุมสว่างเข้าหา เพราะเขาอาจจะมีแต่มุมนี้ก็ได้ ดังนั้นเราควรตัดสินคนจากความศีลเสมอกัน คนที่คบกันแล้วพาไปเจอแต่เรื่องดีๆ และต่อให้ต้องผ่านเรื่องราวที่เลวร้าย ก็ยังอยู่เคียงข้างไม่ไปไหน มากกว่ามาดูว่า คนนี้พูดเพราะ พูดหยาบ
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นร้อนๆ ให้ชาวเน็ตได้ติดตามอ่านความคิดเห็นกันเต็มคาราเบลในแทบทุกโพสต์สุดปังของเธอ กดลิ้งก์ตามไปอ่านกันนะจ้ะ ป้าบางนาขอนำมามาฝากคอข่าวกันพอสังเขป
สำหรับเรา ปัญหาของ Hunger ไม่ใช่เทคนิคัลเทอมเรื่องอาหาร (ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่มีปัญหา ถ้าระดับคนผัดข้าวกินเองได้อย่างเรายังเห็น คนอื่นยิ่งต้องเห็น) แต่สำหรับเรามันคือการHypeให้มันเป็น’หนังอาหาร’ ซึ่งมันไม่ใช่
จริงๆจะเป็นฟ้ามีตา+โฆษณาไทยประกันชีวิตแบบที่เป็นอยู่นี่ก็ได้ ไม่ติด และทุกคนก็รับผิดชอบได้ดีในทางการแสดง แต่ตอนนี้มันเหมือนโยนโจทย์ให้เอไอเขียนบท สั่งว่าเอาเรื่องชนชั้น ความทะเยอะทะยาน การต่อสู้เรื่องตัวตน แต่ไม่เอาแบบสู้ชีวิตทองพูน โคกโพนะ เอไอลองเขียนมาซิ
เอไอแม่งก็คายบทเรื่องนี้ออกมา
คือหนังมันไม่มีชีวิตอะ มันมีสถานการณ์ แต่มันแล้งมาก(ซึ่งไม่แน่ใจว่าเค้าอยากให้แล้งหรือเปล่า) แต่อยู่ๆเอไอก็ใส่จิตใจเข้าไปในบางซิตฯกับบางคน ซึ่งจริงๆแล้วมันจะอาหารหรือไม่อาหารก็ได้ แม่งจะเป็นวงการอะไรก็ได้ ดารา อินฟลู พยาบาล คืออะไรก็ได้หมดเลย แข่งกันเจาะเส้นน้ำเกลือจนได้เป็นพยาบาลส่วนตัวก็ได้ คือมันกว้างขนาดนั้นจนเอาจริงๆไม่เห็นต้องไปชูเรื่องอาหารให้กระดักกระเดิด หลุดเทคนิค
คือเป็นคนทะเยอะทะยานสำหรับเราไม่ผิด เป็นคนเหี้ย(ในหนัง)ก็ไม่ผิด ก็ไปดิ ทำดิ ก็เหี้ยไป โลกแม่งโหดจะตาย กูรู้ เอาอีกดิ แต่หนังมันก็เลยพะวงไปหมด เหมือนเอไอแม่งยังไม่ได้อัปแพตช์ แล้วเลยโอเค อย่าเหี้ยมากเลย เรามาสำนึกรักอาหารโฮมมี่กันดีกว่า
อันนี้ล่ะที่เราว่ามันเป็นปัญหา(ของเรา)มากกว่าเทคนิคัลเทอม และมาดูในวันนี้ วัยนี้ ยิ่งแบบ…ก็ไหนอยากเป็นคนพิเศษไง เอาอีกดิ อะไรงี้แหละ คือเลยไม่ได้เห็นใจนางเอก มีแต่ความแบบ…..มึงรับมือกับโลกไม่ไหวสินะ
เรื่องงานแสดงงานสร้างไม่ติดอะไร สวยงามดี ติดบทกับความพยายามขายหน้าหนังให้มันเป็นหนังอาหารเนี่ย
แต่ๆๆๆ ใส่แต่ตรงนี้ไปอีก ว่าไม่รู้เจอนฝ.ล้วงลูกเรื่องบทหรือไม่อย่างไรนะ แพลตฟอร์มต่างชาติมักจะมามีปัญหาตรงนี้เสมอ เหมือนมีช่องให้ติ๊กอะ ว่าบทคุณต้องมี1,2,3 ในปริมาณเท่านี้ๆๆๆๆๆ คือมันค่อนข้างจะสัมผัสอะไรแบบนี้ได้ทุกที ตั้งแต่กรุงเทพอันตรายแล้ว ที่กลายเป็นหนังไฮคอนเสปท์ แต่รวมๆมันบอกไม่ถูก
#มิตรสหายท่านหนึ่ง