svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

สายเที่ยวต้องรู้ เที่ยวแบบคูลๆ ชิลๆ กับ "9 ประเทศ" ต่อไปนี้ สายชิลสามารถขับรถเที่ยวได้ด้วย "ใบขับขี่ไทย" เที่ยวได้ชิลๆ แบบไม่ต้องง้อ "ใบขับขี่สากล" สามารถนำไปใช้ยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนได้ถึง 9 ประเทศ

สายเที่ยวมากองกันตรงนี้ อีกหนึ่งความปัง สำหรับสายคูล สายเที่ยว สายทริป เปิดรายชื่อกันชัดๆ "9 ประเทศ" ขับรถเที่ยวได้ด้วย "ใบขับขี่ไทย" เที่ยวได้ชิลๆ แบบไม่ต้องง้อ "ใบขับขี่สากล" สามารถนำไปใช้ยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน เที่ยวใกล้ๆ บ้านเรานี่เอง รู้หรือยังว่าสุดจะชิลและแสนสบายใจขนาดไหนกัน 

สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

สำหรับใครที่ชอบขับรถท่องเที่ยว ซึ่งคุณทราบหรือไม่ว่า ใบขับขี่ไทยแบบ Smart Card สามารถนำไปใช้ยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนได้ถึง 9 ประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่สากล เนื่องจากเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศอาเซียน จะมีประเทศไหนบ้าง ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ ไล่เรียง พร้อมเผยรายชื่อ 9 ประเทศที่เปิดโอกาสให้ใช้ใบขับขี่ไทยได้

สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

รายชื่อ 9 ประเทศสุดปัง ดังต่อไปนี้ มันว้าวมากแม๊! 

สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

  1. สปป.ลาว 
     ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศลาว เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีสำหรับการขับรถไปเที่ยวกับครอบครัว เพราะคุณไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลในการนำรถเข้าประเทศเลย แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีนั้นคือ พาสปอร์ตการเดินทาง หรือจะใช้แค่บัตรประชาชนก็ได้ แต่อาจจะต้องเสียเวลาทำหนังสือผ่านแดนนิดหน่อย ใช้ใบขับขี่รถยนต์ของคุณอีก 1 ฉบับ และเอกสารที่สำคัญสำหรับรถยนต์ของคุณ เพื่อใช้ในการผ่านด่านทั้งขาไป และขากลับ สิ่งสำคัญที่ควรรู้อีกอย่าง คือ ข้อบังคับ รวมถึงกฎระเบียบจราจรของประเทศลาวด้วย เช่น ประเทศลาวนั้นขับพวงมาลัยซ้าย และขับเลนขวาซึ่งแตกต่างจากบ้านเราจึงควรใช้ความระมัดระวัง ปรับตัวให้คุ้นเคยก่อน ควรจำไว้เสมอว่าหากขับขี่ในชุมชน ควรขับอยู่ที่ 40 กม/ชม. หากเป็นเส้นทางหลวง หรือเมืองต่อเมือง จำกัดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กม/ชม.  

 

2. เวียดนาม
     ใครมีแพลนจะลองขับรถยนต์ไปเที่ยวที่เวียดนาม ก็สามารถขับรถคู่ใจไปได้ด้วยใบขับขี่ไทยเช่นกัน แต่เอกสารที่สำคัญอื่นๆ ยังต้องมีให้ครบถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง เช่น รถยนต์ของคุณควรจะมีหนังสือรับรองการตรวจสภาพรถโดยออกให้จากฝั่งบ้านเรา เอกสารสำคัญ พาสปอร์ตของคุณ ควรมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน และถ้าจะให้ดีคุณควรมีใบกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คันที่ใช้ในการขับขี่ระหว่างประเทศด้วย เมื่อรถของคุณอยู่ในประเทศเวียดนามแล้ว ความเร็วที่จำกัดเขตชุมชนอนุญาตให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 60 กม/ชม. พ้นเขตชุมชนสามารถทำความเร็วได้ไม่เกิน 90 กม/ชม.


3. กัมพูชา
     เป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยู่ในสมาชิก AEC ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลในการขับรถยนต์ส่วนตัวของคุณไปตะลุยที่ดินแดนแห่งอารยธรรมนี้ ไม่ว่าจะเป็นนครวัดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หรือปราสาทพระวิหาร หากคุณชื่นชอบเที่ยวแบบชื่นชมกับธรรมชาติรอบตัวประเทศกัมพูชาน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่น้อย แต่ก่อนจะออกเดินทางเอกสารสำคัญอื่นๆ ก็ควรจะเตรียมไปให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นเล่มทะเบียนรถยนต์ตัวจริง ใบขับขี่แบบรุ่นใหม่ พาสปอร์ต และบัตรประชาชนตัวจริงของคุณ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหตุการณ์ติดอยู่ที่ด่านเป็นเวลานาน หรือเสียค่าปรับอื่นๆ อีกเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้ไว้ก่อนนำรถคู่ใจคุณวิ่งในเขตของประเทศกัมพูชา การจำกัดความเร็วรถยนต์จะต้องใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. นอกเขตเมือง ผู้ขับขี่รถทุกประเภทกำหนดใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม.

 

 4. พม่า
     ปัจจุบันประเทศที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งที่ก็คือ ประเทศพม่า เสน่ห์ของการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้นคือ คุณจะได้ชมทิวทัศน์ ทัศนียภาพและความสวยงามของธรรมชาติ ของสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมได้อย่างชิลๆ การขับรถเที่ยวที่นี่ใช้ใบขับขี่ไทยได้ไม่มีปัญหา แต่ต้องมีเอกสารที่สำคัญอื่นๆ เตรียมไว้ด้วย เช่น พาสปอร์ตรถเล่มสีม่วง หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถ สติ๊กเกอร์ตัว T ขอได้จากขนส่งทางบ้านเราเพื่อนำมาติดหน้ารถและกระจกหลังรถ แผ่นป้ายทะเบียนรถภาษาอังกฤษ ใบอนุญาตขับรถ ใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือเล่มทะเบียนรถตัวจริง และพาสปอร์ตของคุณ โดยสามารถขับรถผ่านที่ด่านแม่สอด จ.ตาก หรือที่ด่านท่าขี้เหล็ก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก็ได้เหมือนกัน


 5. มาเลเซีย
     หากใครสนใจขับรถไปเที่ยวประเทศมาเลเซียก็สามารถไปได้โดยที่ไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลเช่นกัน ถือว่าเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของเราที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย การไปเที่ยวที่นี่เพียงคุณมีพาสปอร์ตเล่มเดียวก็เที่ยวได้ชิลๆ  แต่ถ้าเผื่อไว้ให้ชัวร์ก็ควรเตรียมใบขับขี่รถแบบ Smart Card ป้ายทะเบียนรถสีดำที่เป็นภาษาอังกฤษ และขอใบอนุญาตินำรถเข้าประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้นสามารถนำรถคู่ใจไปตะลุยข้ามแดนที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมท่องเที่ยวและรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่รอคุณอยู่ที่ประเทศมาเลเซียได้เลย 

     6. อินโดนีเซีย
     หากใครสนใจการท่องเที่ยวแบบขับรถส่วนตัวไปเที่ยวที่ดินแดนภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ก็สามารถขับไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้ใบขับขี่สากลเช่นกัน เพียงแค่มีใบขับขี่ไทย หรือใบขับขี่แบบใหม่ที่เป็นแบบ Smart Card และพาสปอร์ต ก็สามารถตะลุยเที่ยวได้เลย การขับขี่รถในประเทศอินโดนีเซียจะใช้การจราจรทางซ้ายและขับพวงมาลัยทางขวา เมื่อนำรถคู่ใจของคุณตะลุยไปเที่ยวก็ควรใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัย

สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

  7. บรูไน
     บรูไนเป็นประเทศเล็กๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่ก็ถือว่าติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และที่สำคัญบรูไนก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย  การไปขับรถเที่ยวที่บรูไนก็ทำได้ง่ายๆโดยใช้ใบขับขี่ไทย แต่สิ่งที่คุณควรจะมีเตรียมไว้คือ ใบขับขี่แบบ Smart Card และพาสปอร์ตของคุณ รวมทั้งบุคคลที่ร่วมเดินทางไปพร้อมกับคุณด้วย การขับขี่ที่นี่ค่อนข้างจะขับง่ายเพราะถนนดีและผู้คนส่วนใหญ่มักเคารพกฎจราจร

 

 8. ฟิลิปปินส์
     การแพลนไปเที่ยวฟิลิปปินส์ในวันหยุดยาวก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเช่นกัน แต่การขับรถยนต์ในฟิลิปปินส์นั้นพวงมาลัยจะอยู่ด้านซ้าย และขับเลนขวา ซึ่งแตกต่างกับประเทศไทย ดังนั้นก่อนที่จะไปขับรถเที่ยวที่นั่น ต้องจำไว้ว่าการเลี้ยวขวาจะผ่านตลอด และเลี้ยวซ้ายคุณจะติดไฟแดง 

 

     9. สิงคโปร์
     ประเทศสิงคโปร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความน่าสนใจสำหรับคนไทย ทั้งสถานที่สวย และการเดินทางก็สะดวก ที่สำคัญไม่ต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศ หากคุณมีแพลนอยากลองขับรถตะลุยที่นั่น ต้องขับผ่านที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ผ่านเข้าประเทศมาเลเซียก่อน แล้วค่อยขับต่อไปเที่ยวในสิงคโปร์ เตรียมแค่ใบขับขี่ไทยก็ได้ขับรถเที่ยวชิลๆ แต่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจด้วยว่าประเทศสิงคโปร์เป็นเกาะเล็กๆ มีเขตชุมชนเยอะ รถจึงถูกจำกัดความเร็วอยู่ที่ 50 กม./ชม. หากอยู่บนทางด่วน ควรไม่เกิน 70-90 กม./ชม.

 

โดยทั้งนี้  ใบขับขี่ไทย ที่สามารถนำไปใช้ในประเทศที่กล่าวมาข้างต้น จะต้องเป็น แบบสมาร์ทการ์ด ที่ระบุข้อมูลเจ้าของบัตรเป็นภาษาอังกฤษด้วยเท่านั้น หากเป็นใบขับขี่แบบเก่า จะต้องดำเนินการขอรับใบขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดเสียก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ในประเทศข้างต้นได้ และที่สำคัญคือ รถยนต์คันดังกล่าวจะต้องจดทะเบียน เพื่อขอรับแผ่นป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษสำหรับเข้ากลุ่มประเทศสมาชิก โดยเงื่อนไขการนำรถไปใช้ของแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันไป

สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

สุดชิล เปิดรายชื่อ 9 ประเทศ ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล