27 ธันวาคม 2565 เหตุการณ์ตำรวจจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) บุกเชิญตัว นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในระหว่างการประชุมร่วมกับผู้บริหารส่วนต่างของกรมอุทยานฯทั่วประเทศ ที่อาคารสืบนาคะเสถียร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ถือว่าสั่นสะเทือนกรมอุทยานฯอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ “ชัยวัฒน์” อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แจ้งเอาผิด ระบุพฤติกรรมใช้อำนาจไม่เหมาะสม กลั่นแกล้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ไปตำแหน่งห่างไกลภูมิลำเนา
ด้วยข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดย ไม่ชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต” ถือว่ารุนแรงอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ จากการตรวจค้นห้องทำงานของ นายรัชฎา พบเงินสดประมาณ 5 ล้านบาท ตำรวจจึงทำการยึดไว้ตรวจสอบต่อไป
ทำความรู้จัก "อธิบดีกรมอุทยานฯ”
นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นน้องชายคนเล็กของ พล.อ.ยุวนัฏ สุริยกุล ณ อยุธยา เตรียมทหารรุ่น 12 เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่ภายหลังได้ขอลาออกเนื่องจากเหตุผลด้านสุขภาพ
ประวัติการศึกษา
ประวัติการทำงานที่สำคัญ
สำหรับ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งให้เป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ แทนนายธัญญา เนติธรรมกุล (วน.47) อธิบดีคนเก่า ที่หมดวาระเนื่องจากดำรงค์ตำแหน่งมาครบ 8 ปี โดย นายรัชฎา ได้เข้าทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2565
ก่อนหน้าเข้ารับตำแหน่ง "อธิบดีกรมอุทยานฯ” ของ นายรัชฎา ถูกมองว่า เป็นการช่วงชิงอำนาจ เป็นศึกระหว่างรุ่น "วน.46-47" ม.เกษตรศาสตร์
ก่อนหน้า นายรัชฎา มานั่งอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง ที่ลงนามโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กับตัวนายรัชฎาเอง ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักสำคัญๆ รวมไปถึงหัวหน้าอุทยานฯขนาดใหญ่ และอุทยานฯทางทะเล อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญๆทั่วประเทศ
ว่ากันว่า ตำแหน่งต่างๆเหล่านั้น มีความสัมพันธ์กับอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ทั้งการเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 47 และลูกน้องคนสนิททั้งสิ้น!!
นายรัชฎา เคยกล่าวไว้ว่า ก่อนหน้าที่ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เคยเป็น ผู้อำนวยการสำนักอุทยาน และ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ามาก่อน ดังนั้นถือเป็นลูกหม้อที่พร้อมประสานการทำงานอย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าคนในพื้นที่กลับไปทำงาน เช่น ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์(ส.บอ.)ก็ให้คนพื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียงเข้าไปทำงาน การประสาน การพูดคุย การแก้ปัญหา จะทำได้ง่ายกว่าคนต่างถิ่น
ส่วนเรื่องความขัดแย้ง ระหว่างรุ่นวนศาสตร์นั้น นายรัชฎา บอกว่า “รุ่น 47 ก็ เป็นรุ่นน้องผมทั้งนั้น ก็สนิทกันดี ผมไม่มีปัญหาอะไรกับใครทั้งสิ้น เมื่อเข้ามาทำงานก็ทำงานได้กับทุกคน”
ในช่วงเข้ามาดำรงตำแหน่ง "อธิบดีกรมอุทยานฯ” นายรัชฎา ตอบคำถามถึงนโยบายในเรื่องกำลังพลในกรมไว้น่าสนใจว่า “ผมจะทำทุกวิธีที่จะดูแลสวัสดิการของเจ้าหน้าที่อุทยานทุกส่วนให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ รับรองได้เลยว่าจะไม่มีการปลดใครออก ในส่วนของพนักงานพิทักษ์ป่า มีแต่จะจ้างเพิ่ม และการปรับเปลี่ยนทำได้ตลอดเวลาครับ ไม่มีใครอยู่ที่ไหนได้ถาวร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม”
ดังนั้นน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่า การเข้าจับกุมและแจ้งข้อหา"อธิบดีกรมอุทยานฯ"ในครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร?