19 เมษายน 2568 ความคืบหน้า เหตุเศร้าทีมกู้ภัยฯ กรณี "ตึกสตง." ถล่ม ที่ พันเอก พิฆราช สุริยะ หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 11 / ผบ.พื้นที่ กองอำนวยการ ศูนย์บัญชาการภัยพิบัติ กองทัพภาคที่ 1 ส่วนหน้า ซึ่งเป็นหนึ่งในกำลังพลจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก ที่เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหา และช่วยเหลือเหตุอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่ม ตั้งแต่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ล่าสุด พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกภพ ตันประยูร รองผบก.น.1 สั่งการ พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกสร ผกก.สน.พญาไท ตรวจสอบอุบัติเหตุจราจร ผู้เสียชีวิต บนถนนศรีอยุธยา ช่วงหน้าโรงพยาบาลสงฆ์ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ร.ต.ท.วีระชัย แก้วสง่า รองสว.(สอบสวน) สน.พญาไท รุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ พันเอกพิฆราช สุริยะ อายุ 43 ปี
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน พบว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ขับขี่มาจากทางแยกศรีอยุธยา มุ่งหน้าไปทางแยกพญาไท อยู่ในช่องทางที่ 3 นับจากซ้าย โดยถนนมี 3 ช่องทาง ผู้เสียชีวิตชับขี่รถมาด้วยความเร็ว จนเมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุได้หยุดรถกระทันหัน จนเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลัก ล้มไถลไปบนถนนถึงบริเวณทางเท้าหน้าโรงพยาบาลสงฆ์ โดยศีรษะของผู้เสียชีวิตกระแทกเข้ากับราวเหล็กกั้นขอบทางอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้ดำเนินการ หลังจากรับแจ้งเหตุได้รีบเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุ ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ จัดทำบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ จัดทำแผนที่สังเขปแสดงสถานที่เกิดเหตุ ภาพถ่ายประกอบคดี รวบรวมพยานหลักฐานที่พบในสถานที่เกิดเหตุ สอบถามพยานในที่เกิดเหตุในเบื้องต้นไว้ก่อน ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อให้ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ พร้อมทั้งนำรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุ ไปเก็บรักษาไว้เป็นของกลางในคดี แจ้งญาติของผู้เสียชีวิตให้ทราบเหตุ ชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์ รพ.รามาธิบดี ส่งศพไปผ่าชันสูตรที่ รพ.รามาธิบดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีญาติมาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ บริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ภายหลังจากเกิดได้ประสานเชิญคู่กรณีเกี่ยวข้อง ทำการสอบปากคำเพิ่มทั้งหมด 2 คัน คนของผู้ประสบเหตุ ขับขี่ผ่านมาจากทางกระทรวงการต่างประเทศ คู่กรณีมาจากโรงพยาบาลรามา เลี้ยวซ้ายมาเข้ามาบริเวณดังกล่าว ระหว่างห่างกันประมาณ 1 เมตร ซึ่งต้องทำการสอบปากคำและพิจารณาว่า รถคู่กรณีคันข้างหน้าเบี่ยงซ้ายกระทันหัน ชนราวกันทางนั้น เกิดจากความประมาทหวาดเสียวหรือไม่ สอบปากคำรถคู่กรณี ประมาทหวาดเสียวหรือไม่ ทั้งนี้ จะเชิญคู่กรณีดังกล่าว สอบปากคำวันนี้เวลา 19.00 น. ที่ สน.พญาไท ต่อไป