หลังจากเกิดเหตุ อาคารสำนักงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างพังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในประเทศพม่าที่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรฐานการก่อสร้างทั้งอาคารสำนักงานที่พังถล่มดังกล่าวรวมถึงตึกระฟ้าแห่งอื่น ๆ ที่เกิดรอยร้าวหรือสั่นไหว และนำมาเปรียบเทียบกับ "อาคารสาธร ยูนีค" ที่แม้ถูกทิ้งร้างแต่กลับไม่มีโครงสร้างที่ได้รับความเสียหายมากนัก
ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์โพสต์ประกาศขายอาคารสาธร ยูนีค โดยตั้งราคาเริ่มต้นที่ 4,000 ล้านบาท กระทั่งล่าสุด ถูกระบุว่าตึกดังกล่าวถูกขายออกเรียบร้อยแล้ว
2 เมษายน 2568 ล่าสุด นายตามโพธ ต่อสุวรรณ บุตรชายของ ผศ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชาวไทยและ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้โพสต์เพจเฟซบุ๊ก "Tampote Torsuwan" ระบุว่า
“วันนี้โทรศัพท์เข้าจนสายแทบไหม้ ตั้งแต่ข่าวเรื่องประกาศขาย คุณพ่อ (อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ) ไม่ได้เป็นผู้ประกาศขายนะครับ
ตึกนี้มีข้อพิพาทและคดีความมากมายหลายอย่าง กระบวนการทางกฎหมายที่ฉ้อฉลยึดทรัพย์ภาคเอกชนผ่องถ่ายไปองค์กรข้ามชาติแล้วฟอกทรัพย์กลับมาเข้ามือกลุ่มทุนสามานที่เป็น deep stage ของประเทศนี้ คุณพ่อและคุณแม่ต่อสู้กับกระบวนการฉ้อฉลปล้นชาตินี้มายาวนานร่วม 30ปีFact ที่หลายคนอาจไม่รู้ ห้องชุดในตึกนี้ได้ขายไปแล้วมากกว่า 90% ตั้งแต่เปิดขายเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว กลุ่มทุนสามานนี้ไม่ได้ปล้นเฉพาะ Developer แต่ปล้นคนซื้อทุกคน โอนถ่ายทรัพย์ไปมาเพื่อเขย่าให้ตึกนี้กลายเป็นตึกเปล่าที่ยังไม่มีใครซื้อ ซื้อถูก-ฟอกขาว-เขย่าให้เป็นตึกเปล่า นี่คือสิ่งที่ทุนสามานทำกับทุกตึกทุกอาคารที่โดนโยนลงหม้อต้มยำกุ้ง
เรื่องราวการต่อสู้ของท่านทั้ง 2 ยังคงดำเนินอยู่ และผมเชื่อว่าจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ การประกาศขายไม่ได้มาจากคุณพ่อ และท่านไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใครเกี่ยวกับตึกนี้ในการขาย ช่วงระยะหลังท่านสุขภาพไม่ค่อยดี ท่านพักผ่อนเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ
โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว ถ้าปัญหาตึกนี้มันจบง่าย มันคงไม่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ต้มยำกุ้งมานาน 30 ปี”
#ตึกสาทร #ghosttower #รังสรรค์ต่อสุวรรณ
ปล. ฝากแชร์ไปให้ถึงดาวสีเขียวทีนะครับ
ข้อมูลจาก เพจเฟซบุ๊ก "Tampote Torsuwan" และ wikipedia