21 มกราคม 2568 ทำท่าจะกลายเป็นมวยอีกคู่ โดยมีชนวนจากปมของนักร้องชื่อดัง “แสตมป์” ที่เริ่มต้นจากปมฉาว กลายเป็น “ศึก2 ทนาย” ระหว่าง "ทนายนิด้า" หรือ ศรันยา หวังสุขเจริญ ทนายฝรั่งของแสตมป์ กับ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ทนายฝั่งของคู่กรณีนักร้องดัง ที่ "มาคุ" กันในโซเชียลตั้งแต่เกิดดราม่าของนักร้องหนุ่มขึ้น
"โดยต่างฝ่ายต่างมีการโพสต์แซะ โต้ตอบกันไปมาชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน"
กระทั่งวานนี้ (20 ม.ค.) “แสตมป์” ได้รับจบดราม่า ด้วยออกมาโพสต์ขอโทษ ซึ่ง “ทนายเดชา” ในฐานะที่ปรึกษาฝั่งคู่กรณีของแสตมป์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ระบุ พูดคุยกับคู่กรณีและครอบครัวแล้ว หลังได้เห็นข้อความที่แสตมป์โพสต์ยอมรับผิดและขอโทษ ซึ่งคู่กรณีและครอบครัวรู้สึกพอใจ และไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว ขอยุติเรื่องทั้งหมด
“ยกเว้นเรื่องคดีหมิ่นสถาบันมาตรา 112 ที่นอกเหนือการจัดการของคู่กรณี เพราะเรื่องนี้คู่กรณีและครอบครัวได้ไปให้ข้อมูลกับการกองทัพบกแล้ว และเป็นหน้าที่ของกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ในการพิจารณาดำเนินการกับแสตมป์หรือไม่”
ก่อนที่ต่อมา “ทนายเดชา” จะโพสต์ว่า
"มาตรา 112 เกิดจากแสตมป์ไปร้องเรียนกองทัพบก หลังจากนั้นนายพลจึงไปชี้แจง เป็นที่มาของการดำเนินคดี"
"ผมได้รับแจ้งจากนายพลว่า คุณแสตมป์ได้ไปร้องเรียนกองทัพบกว่า นายพลนั้นใช้มาตรา 112 ไปข่มขู่
หลังจากนั้น มีการสอบสวน และสรุปว่ามีข้อความที่ น่าจะหมิ่นสถาบัน จึงมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย”
ทำให้ต่อมา “ทนายนิด้า” ออกมาสวนกรณีดังกล่าว โดยโพสต์ว่า
“เมื่อคืนได้แคปข้อความนี้ไปสอบถามคุณแสตมป์มาว่า เป็นเรื่องจริงรึไม่ที่ทนายดอเด็กโพสต์พาดพิงถึงคุณแสตมป์ไว้แบบนี้ กล่าวหาว่าคุณแสตมป์ไปร้องเรียนกองทัพบก จึงกลับมาถูกดำเนินคดีเสียเอง
ได้รับคำตอบจากคุณแสตมป์ว่า = #ไม่เคยร้องครับ”
ทนายนิด้า เขียนเพิ่ม ระบุว่า “อยากให้นายพลออกมาชี้แจงหน่อยค่ะ ทำไมข้อมูลถึงได้คลาดเคลื่อน”
ล่าสุดวันนี้ (21 ม.ค.) "ทนายเดชา" ได้ไลฟ์สดพูดคุยกับแฟนคลับ ตอนหนึ่งได้พูดถึงประเด็นการดำเนินคดี 112 ว่า คดี แสตมป์ ท่านนายพลและทีมกฎหมาย มอบหมายให้ตนแถลงข่าว ก็หมดภารกิจ จบสิ้นไปแล้ว ส่วนการดำเนินการตามมาตรา 112 เป็นเรื่องของกองทัพ เขาจะพิจารณาเองว่าใครผิดใครถูก ถ้าเขามองว่าผิดเขาก็ไปแจ้งความ ส่งศาล ศาลตัดสิน ก็ว่ากันตามพยานหลักฐาน ตนก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร แค่แจ้งให้ทราบ เพราะแสตมป์มีการโพสต์เกี่ยวกับมาตรา 112 ก็ได้รับมอบหมายจากลูกความให้พูดแค่นั้นก็จบแล้ว
"หลังจากนี้ไม่ต้องมาถามตน เรื่อง 112 ตนไม่ได้เกี่ยวข้อง ตนเล่าให้ฟังว่ามีคนไปร้องเรียนที่กองทัพบก ว่าท่านนายพลใช้มาตรา 112 ไปข่มขู่เขา หลังจากนั้นมีการสอบสวน ก็รู้ว่ามันไม่ใช่การข่มขู่ มันเป็นการปกป้องสถาบัน ก็แค่นี้ กองทัพบกเขาก็ดำเนินการของเขาไป จะผิดจะถูกก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมแล้ว หมดภาระหน้าที่ก็ไม่ต้องมาถามอะไรผมแล้ว ไม่มีอะไรต้องถามแล้ว ไม่อยากตอบคำถามอะไร คงเอาแค่นี้ ใครชอบใครก็เชียร์กันไป" ทนายเดชา ระบุ
ดังนั้นเมื่อประมวลข้อมูลดังกล่าวที่ปรากฏออกมานั่นเท่ากับว่า อาจจะมีคนเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่อย่างไร?
งานนี้คงต้องจับตาดูว่า ฝั่ง “ทนายนิด้า” จะออกมาตอบโต้อย่างไรอีกหรือไม่ และศึกทนายครั้งนี้จะจบลงอย่างไร