4 มกราคม 2568 ที่ สน.ทองหล่อ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยทนายโรส อังศวีร์ อนุวัตน์รุจิกร เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับ อินฟลูฯ บางนา และ บก.รายการดังทางช่อง 7 ในข้อหาหมิ่นประมาท สืบเนื่องจากการเข้าไปช่วยเหลือ ครอบครัวของ แบงค์ เลสเตอร์
กัน จอมพลัง ระบุว่า วันนี้มาเพื่อปกป้องตัวเอง เพราะที่ผ่านมาตนเองไปปกป้องแบงค์ และครอบครัวของแบงค์เต็มที่แล้ว และระหว่างทางก็เกิดอะไรขึ้นมากมาย ตนก็สู้กับปัญหาต่างๆ แต่สิ่งที่ติดใจคือ อินฟลูฯ บางนา และ บก.รายการดังช่อง 7 โดยกรณีของ อินฟลูฯ บางนา กล่าวหาว่า ‘กัน จอมพลัง’ จะเอาความน่าสงสารของครอบครัวนี้ มาแสวงหาผลประโยชน์จากการเปิดรับบริจาค ทำให้ก่อนหน้านี้มีทัวร์มาลงตน และตนเองก็ตกใจกับกรณีนี้ จากที่ช่วงแรกๆ ก็มองว่าคงไม่เป็นไร แต่หลังๆ สังคมเริ่มเข้าใจว่า ตนเองมาหาผลประโยชน์ตามที่อินฟลูฯ คนดังกล่าว ไลฟ์ทางโซเชียล
ซึ่งความเป็นจริง ตนไม่เคยเปิดรับบริจาคใดๆ เลย ขนาดมีคนจะเอาบัญชีครอบครัวไปเขียน เพื่อรับบริจาค ตนยังบอกว่าให้ปรึกษาก่อนเลย เพราะตนรู้เรื่องของครอบครัวนี้ ซึ่งพอมีสังคมไปเชื่อว่า ตนไปเปิดรับบริจาค ทำให้รู้สึกว่ามันแฟร์หรือไม่ และมันไม่แฟร์ เพราะความจริงก็ไม่ใช่ และสิ่งที่น่าหดหู่คือ อินฟลูฯ บางนา ยังไปว่า “ยายหลานตอแหล” ซึ่งมองว่า การไปพูดในลักษณะนี้ เป็นคำพูดที่แรงเกินไป
ทั้งนี้ พออินฟลูฯ บางนา รู้ว่าตนจะฟ้อง ก็มีการติดต่อมา ซึ่งถ้าไม่มีเจตนาจะว่าร้ายตน ทำไมไม่ติดต่อมาตั้งแต่แรก “ตอนคุณด่าผมในที่แจ้งคือในไลฟ์ แล้วจะมาคุยกับผมในที่ลับ มันแฟร์หรือไม่” และอีกจุดหนึ่งที่ตนติดใจคือ กรณีที่ อินฟลูฯ บางนา กล่าวอ้างว่า ผู้ใหญ่ส่งข้อมูลมาให้ ซึ่งผู้ใหญ่สำหรับเขา อาจจะไม่ใช่ผู้ใหญ่สำหรับตน และผู้ใหญ่ของเขาก็ติดต่อมาหาตนเพื่ออยากจะคุย อยากจะเคลียร์ ตนก็ยินดีที่จะพูดคุย เพราะอยากรู้ว่า ใช่คนที่ส่งข้อมูลให้อินฟลูฯ บางนา โจมตีตนหรือไม่ จึงได้นัดมาเจอที่ สน.ทองหล่อ
กัน จอมพลัง ยอมรับว่า อินฟลูฯ บางนา ติดต่อมาหาตนที่ตนรับสาย 1ครั้ง ช่วงปลายปี 2567 หลังจบงานศพของแบงค์ แต่มีการพยายามติดต่อมาทางอื่นอีกหรือไม่ตนไม่ทราบ ซึ่งถ้าจะมาคุยเพื่อไม่ให้ตนไม่ฟ้องก็ไม่เอา และตนยังเห็นเขาไปพูดในไลฟ์ในลักษณะว่า ตัวเขาไม่ผิด และมีเอฟซีไปติติงเขา เขายังมาบอกว่า ถ้า กัน จอมพลัง คุมเอฟซีไม่ได้ ก็ให้เลิกช่วยคนไป ตนจึงตั้งคำถามว่า มีปัญหาอะไรกับตนหรือไม่ มีปัญหาอะไรกับการที่ตนออกไปช่วยคนหรือไม่ ยอมรับว่า ตนรู้สึกบั่นทอนกับเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
กัน จอมพลัง กล่าวถึง กรณีที่แม่ของ แบงค์ เลสเตอร์ ถูกให้ออกจากงานว่า ที่ผ่านมาตนมักจะให้ทีมงานเตือนแม่ของแบงค์ เรื่องการพูดจาทุกวัน เพราะถ้าแม่พลาดตนก็จะโดนด้วย และเรื่องที่แม่แบงค์พูดถึงแม่ปล่อยเงินกู้ ตนก็ยังเตือนว่า ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็ไม่ต้องพูด และตนก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องเงินที่เกี่ยวข้องกับแม่ของแบงค์อีก และตอนนี้ ตนขอตัดการช่วยเหลือไปแล้วด้วย
ทั้งนี้เข้าใจว่าคนเรามีความโกรธ แต่ควรโกรธแบบผู้ใหญ่ และการที่แม่ของแบงค์ ส่งข้อความไปหาทนายเกิดผล ในลักษณะด่าทอ ถือเป็นการคุกคามข่มขู่ และมองว่า แม่จะพูดอะไรต้องคิดเยอะฯ ทั้งนี้ อยากฝากแม่แบงค์ด้วยว่า ให้แม่พูดให้น้อย เพราะวันนี้แบงค์จากไปด้วยความรักความสงสาร ทุกคนบนโลกไม่ควรเกิดแบบนี้ แต่การที่แม่ออกมาทำอะไรแบบนี้จะทำให้คนสงสารแบงค์น้อยลง และสิ่งที่แม่พูดอย่างเรื่องปล่อยเงินกู้ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
กัน จอมพลัง ยังพูดถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับ บก.รายการดังในช่อง 7 ด้วยว่า ตนรู้สึกไม่โอเคในการไปโพสต์โซเชียลของ บก.คนดังกล่าว ที่ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีคำหนึ่งในข้อความ คือคำว่า ‘มาเฟีย’ เพราะตนเองมองว่า “ความหมายของมาเฟียคือ แก๊งค์อาชญากร รีดไถ รีดเงิน ซึ่งผมไม่ยอมรับคำนี้ ผมไม่ได้เป็นมาเฟีย ผมเป็นมาฟรี และช่วยคนไม่เคยได้เงินมีแต่เสียเงิน”
พร้อมให้ฟังอีกว่า จุดเริ่มต้นคือ สืบเนื่องจากกรณีเรื่องของแบงค์ ที่ตนเข้าไปช่วยเหลือ เพราะครอบครัวเขาขอให้ตนช่วยด้วย น้าแบงค์เป็นคนเรียกไป แล้วน้าเขาติดใจว่า ถ้าจะเอาคนออกจากบ้าน ควรคุยกับเขาก่อนหรือไม่ เนื่องจากวันนั้น ตนไปเจอกับทีมสายไหมฯ ทีมสายไหมกำลังจะพายายไปออกรายการ แต่ตนได้คุยกับทีมสายไหมแล้วและทีมสายไหมก็เข้าใจ
จากนั้นก็มีการไปเตรียมสถานที่ที่วัด และหลังจากนั้น ก็มีข้อความว่า ปรากฎออกมาทางโซเชียล ที่ระบุว่า ตัวของ บก.ดังกล่าว รู้จักกับแบงค์มานาน ตนก็รู้จักแบงค์มาตั้งแต่ตนขายของตลานัดแล้ว แบงค์ยังขายพวงมาลัยอยู่เช่นกัน ยืนยันว่า ตนไม่ได้พายายหนี และถ้าไม่ได้มีเหตุการณ์ชนกัน ตนก็คงไม่คิดว่า ที่มีการโพสต์ข้อความในโซเชียลจะหมายถึงตนเอง
“คำที่มันเจ็บคือ คนดีเขาไม่จ้างการ์ดมาเดินตามให้เหมือนมาเฟียหรอก จึงอยากถามว่า วันนี้การที่ให้การ์ดมาดูแลความปลอดภัยให้เคส ถามว่าผมเป็นมาเฟียเหรอ และแต่ละเคสผมชนกับผู้มีอิทธิพลทั้งนั้น แล้วกันที่ตนมีการ์ดมาดูแลเคสผมดูไม่ดีเหรอ”
และที่ผ่านมา ช่อง 7 ก็ไม่ออกมาทำอะไรเลย ตนจึงมองว่า แล้วแบบนี้จะให้ความเป็นธรรมกับคนอื่นได้อย่างไร ถ้าจะด่าใครก็ได้ เงียบแล้วก็จบ
กัน จอมพลัง ยังบอกทิ้งท้ายว่า “ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกคุณทำเพื่ออะไร อาจจะหมั่นไส้ หรือเกลียดการที่ผมออกมาช่วยสังคมมันหมั่นหน้า แต่พวกคุณลองคิดดีๆ การออกมาช่วยสังคมโดยไม่ได้กลัวอะไรเลย มันแฟร์หรือไม่ ลองนึกกลับกันถ้ามีคนไปทำแบบนี้กับลูกคุณ แม่คุณ ครอบครัวคุณ คุณจะโอเคหรือไม่ ปากบอกช่วยคน แต่การช่วยด้วยการกดให้ต่ำลง ปรามาสคนอื่นแบบนี้เหรอ และหวังว่า เรื่องนี้จะบทเรียน และหวังว่าต้นสังกัดจะเคลียร์เรื่องนี้ให้จบ และตนเองจะตามเรื่องนี้ต่อเนื่องด้วย โดย กัน จอมพลัง ยืนยันด้วยว่า ทั้ง 2 เคส จะดำเนินคดีถึงที่สุด เต็มที่แน่นอน
โดยหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ นายจี ที่ถูกระบุว่า เป็นผู้ใหญ่ของอินฟลูฯ บางนา ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับ กัน จอมพลัง ที่ หน้า สน.ทองหล่อ นายจี บอกว่า ตนคือบุคคลที่ อินฟลูฯ บางนา กล่าวอ้างว่า อยู่เบื้องหลัง ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจ วันนี้จึงต้องออกมา
ซึ่งกรณีที่พูดว่า ผู้ใหญ่ฝากมาเตือนกันจอมพลัง นายจียืนยันว่า ไม่เคยพูดไม่เคยไปบอกให้อินฟลูฯ บางนา มาเตือน กัน จอมพลัง เลย และตนก็ชื่นชม กัน จอมพลัง ด้วยซ้ำ และไม่จำเป็นต้องเตือน เพราะรู้อยู่แล้วว่า กัน จอมพลัง ทำอะไรและตนก็เป็นผู้ใหญ่พอ
ทั้งนี้ นายจี ยังเล่าอีกว่า อินฟลูฯ บางนา พยายามที่จะชวนตนเข้าไปในไลฟ์ของคืนวันที่ 26 ธันวาคม ซึ่งตอนนั้นตนก็รู้สึกว่าไม่ควรมายุ่ง จึงได้ตอบปฏิเสธไป และเมื่อจบไลฟ์นั้น ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่หลังจากนั้นก็พบว่า มีข้อมูลที่บิดเบือนจึงทำให้เกิดการไม่สบายใจ หลังจากนั้นวันที่ 27 ธันวาคม ก็ยังมีการพยายามชวนเข้าไลฟ์อีก
พร้อมย้ำว่า ตนไม่ได้ให้อินฟลูบางนา คนดังกล่าวไปพูดตามที่เค้าพูดในไลฟ์ และยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ฝากไปบอก กันจอมพลัง และตนยังมองด้วยว่า การที่อินฟลูบางนา ไปพูดในไลฟ์ลักษณะนั้นเป็นการกระทำที่แรง เพราะตนเองก็แอนตี้อินฟลูสายเทาสายดำอยู่แล้ว ส่วนจะมีผู้ใหญ่คนอื่นอีกหรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะเวลาที่อินฟลูบางนามีการพูดคุยงาน ก็จะพูดถึงคำว่าผู้ใหญ่อยู่หลายครั้ง และส่วนตัวก็รู้จักกับอินฟลูบางนาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น
โดยหลังนายจี ได้พูดคุยกับ กัน จอมพลัง เสร็จ หลังพูดคุยกันแล้ว กัน จอมพลัง บอกว่า ตนเองก็โอเคที่กล้ามาคุย