Exclusive เปิดใจ“จ้าว เหว่ย” ครั้งแรกรอบ 15 ปี ปัดเอี่ยว"ทุนจีนสีเทา" (มีคลิป)
“จ้าว เหว่ย” เปิดใจกับสื่อฯครั้งแรกรอบ 15 ปี กับ "เนชั่นทีวี" ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้อง"ทุนจีนสีเทา" ไม่เคยรู้จัก"ชูวิทย์" ถามกลับทำไมต้องมาใส่ร้าย ท้าหาหลักฐานมาพิสูจน์ ยืนยันพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำให้เป็นสีขาวไม่ใช่สีเทา ไม่ใช่เจ้าพ่อยาเสพติด
3 ธันวาคม 2565 เปิดใจ "จ้าว เหว่ย" กับสื่อฯครั้งแรกในรอบ 15 ปี กับผู้สื่อข่าว "เนชั่นทีวี" ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ในประเด็นร้อน "ทุนจีนสีเทา"
ทีมข่าว "เนชั่นทีวี" เดินทางไปพบกับ "จ้าว เหว่ย" ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ที่หอพระราชวังจำลอง โดยภาพแรกที่เห็นจ้าว เหว่ย ในวัย 71 ปี กำลังนั่งจิบชา สวมเสื้อผ้าลินินสีโอรส กางเกงผ้าสีเทา สวมรองเท้าผ้าใบ ด้วยบุคลิกสบายๆ สไตล์ชาวจีนทั่วไป
จ้าว เหว่ย ยอมรับว่า ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรที่ถูกพาดพิงไปเกี่ยวข้องกับข่าวกลุ่มทุนจีนสีเทาในประเทศไทยที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา มักจะถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้มีอิทธิพล และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยวันนี้ได้ออกมา ได้เปิดใจกับ "เนชั่นทีวี" อย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 15 ปี ว่า..
" วันนี้เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ถูกพัฒนาไปไกลกว่าที่หลายๆคนคิด ภายใต้การทำงานร่วมกับรัฐบาลสปป.ลาว ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมไปถึงการป้องกัน และปราบปราบยาเสพติด"
ตั้งแต่ที่เข้ามาพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมื่อปี 2550 จนถึงปัจจุบัน มักจะถูกคนภายนอก ต่างมองว่าเป็นพื้นที่สีเทา แหล่งค้ายาเสพติด และแหล่งฟอกเงิน เพราะมีบ่อนกาสิโน “คิงส์โรมัน” ตั้งอยู่ด้วย แต่ปัจจุบันนี้หากได้เข้ามาสัมผัสแล้วจะเห็นว่า “บ่อนกาสิโน” คือส่วนหนึ่งของการลงทุนเท่านั้น ปัจจุบันได้มีกลุ่มทุนสิงค์โปร์ เข้ามาเช่าระยะยาวเปลี่ยนชื่อมาเป็น ALLUXI CASINO มีนายทุนชื่อที่รู้จักกันว่า “สกาย” ชาวสิงค์โปร์วัย 49 ปีเป็นคนบริหารบ่อนกาสิโน
“แต่มากกว่านั้น ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ คือ เมืองใหม่ที่มีเป้าหมายจะเติบโตระดับโลก เรามาไกลเกินกว่าพื้นที่สีเทา ที่ใครหลายคนเข้าใจ และมักจะเข้าใจผิดมาโดยตลอด บางคนที่พูดถึงเรายังไม่เคยเข้ามาเห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น จึงไม่เสียเวลาไปอธิบายในสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องจริง ทุกคนที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำรู้ดี เช่นเดียวกับกับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนก็รู้ดี รัฐบาลสปป.ลาวก็รู้ว่าเรามีเป้าหมายในการพัฒนาอย่างไร จึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกมาแก้ข่าว แต่ให้ทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเครื่องพิสูจน์ ”
“เนชั่นทีวี” ถามว่า “จ้าว เหว่ย” รู้จัก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย และ เครือข่ายกลุ่ม “ทุนจีนสีเทา” หรือไม่ จ้าว เหว่ย ปฎิเสธและถามกลับว่า “ชูวิทย์ เป็นใคร” ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยสนิทสนม และไม่เคยจะพบปะ ทำไมถึงมาใส่ร้ายพาดพิง มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ตนก็เป็น นักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญ และมั่งคั่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาอ้างชื่อไปเกี่ยวกับกับกลุ่มทุนสีเทาตามที่ เป็นข่าวในประเทศไทย
นอกจากนี้ กระแสข่าวที่พยายามเชื่อมโยงให้ 5 เสือมังกร โดยอ้างว่ามาเกี่ยวข้องกับตนนั้นแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย นักลงทุนจีนมีทั่วโลก หากจะกล่าวอ้างกัน ต้องมีหลักฐานมาพิสูจน์ อย่ามาพูด เพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันไม่ยุติธรรมสำหรับตน ทุกวันนี้เขตเศรษฐกิจพิเศษ ไม่ใช่ดินแดนสนธยาตามที่ใครเข้าใจ แต่มีความปลอดภัย พร้อมต้อนรับทุกคนทุกเชื้อชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอยากให้เข้ามาท่องเที่ยว มีความปลอดภัย และยังได้สัมผัสทั้งแหล่งท่องเที่ยว อาหาร และวิถีชีวิตของคนจีน และคนลาว
ส่วนกรณีที่สหรัฐอเมริกาขึ้นแบล็คลิสต์ตนเองนั้น ไม่ได้ให้ความสนใจอะไร และมองว่า ทางสหรัฐอเมริกาพยายามจะบอกกล่าวให้คนทั่วโลกเข้าใจผิดมาโดยตลอด พยายามที่จะใส่หมวกให้คนอื่นเป็นมาเฟีย หรือค้ายาเสพติด มันไม่ยุติธรรม ในวันนี้้จ้าวเหว่ย ยังยืนยันว่า เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมคำ คือ พื้นที่สีขาว มีความปลอดภัย และเป็นแหล่งลงทุน แหล่งท่องเที่ยว ระดับโลกที่ใคร ๆ ก็ไม่ควรจะมองข้ามอีกต่อไป
ชมคลิป เปิดใจ “จ้าวเหว่ย” ไม่รู้จัก"ชูวิทย์" ปัดเอี่ยว"ทุนจีนสีเทา"
ข่าว : สกาวรัตน์ ศิริมา
ภาพ : จักรินทร์ นมนาน
สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวจ.เชียงใหม่