19 เมษายน 2568 ที่ จ.เชียงใหม่ มีรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ได้เกิดพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จนทำให้หลายอำเภอได้รับผลกระทบ จุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก คือบริเวณร้านไก่ย่างส้มตำ และอู่ซ่อมรถ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับกองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่ต้นไม้ขนาดใหญ่ทั้งต้นไทรยักษ์มากกว่า 100 ปี รวมถึงต้นมะขามอายุกว่า 50 ปี ล้มลงมาทับใส่ทรัพย์สินของชาวบ้านทั้ง ตัวร้าน อู่ซ่อมรถ รถยนต์ประชาชนพังยับเยิน
ล่าสุดเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งกู้ซากรถยนต์ที่เสียหาย ส่วนของต้นไม้ใหญ่ที่ล้ม ต้องตัดกิ่ง ส่วนตัวลำต้นยังไม่สามารถนำออกได้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่มาก รวมถึงทำการรื้อถอนร้านส้มตำที่เสียหายทั้งหลัง
ทั้งนี้ในเวลา 10.30 น. ท่านพระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงจังหวัดเชียงใหม่ จะได้นำช้างกู้ภัยจำนวน 2 เชือก เพื่อเข้าช่วยเหลือทีมงานในการตัดต้นไม้ และการเคลื่อนย้ายกิ่งไม้ขนาดใหญ่
ขณะเดียวกันในอาคารไชยานุภาพ ในค่ายกองพลทหารราบที่ 7 ก็ถูกพายุพัดได้รับความเสียหาย ทหารก็กำลังเร่งสำรวจและทำการเคลียร์พื้นที่ ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.แม่ริม มีกำหนดประชุมวางแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยเวลา 10.00 น. และอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ทั้งบ้านเรือนประชาชน วัด หน่วยงานราชการ และพื้นที่สาธารณะ เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือต่อไป
น.ส.อุษา ปัญญาคำ ภรรยาเจ้าของอู่ซ่อมรถ "ช่างเสือ" เล่าเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุว่า ช่วงนั้นสามีออกไปดูรถให้ลูกค้า ตนอยู่เฝ้าอู่กับลูกน้องอีก 2 คน และลูกสาววัย 2 ขวบ นอนอยู่ในห้องพักด้านหลัง ขณะที่ลมพายุเริ่มพัดแรง จนหม้อแปลงหน้าร้านระเบิดเสียงดัง ตนห่วงลูกจึงรีบวิ่งไปดูลูกสาว
ขณะนั้นลมพายุเริ่มแรงขึ้นเป็นลักษณะลมหมุน จนหลังคาร้านเหมือนจะถูกพายุหอบลอยขึ้น ช่วงที่ตนเองเข้าไปดูลูกในห้อง ได้ยินเสียงคล้ายกิ่งไม้ใหญ่หล่นใส่หลังคา จากนั้นได้ยินเสียงดังมาก เพราะต้นไทรและต้นมะขามถูกแรงลมงัดล้มทั้งราก ล้มทับอู่ซ่อมรถ รถลูกค้า และรถส่วนตัว รวม 6 คัน เสียหาย
ต้นไทรที่ล้มลงมายังทับลงที่ห้องพักที่ตนเองและลูกสาวอยู่ ตนจึงรีบอุ้มลูกขึ้นและกอดไว้แน่น ขณะหลังคาพังถล่มลงมา ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย มีรอยบาดและฟกช้ำ ส่วนลูกสาวหัวแตกและมีบาดแผลหลายแห่ง หลังพายุสงบลงในราว 5 นาที ตนจึงพาลูกสาวคลานออกมาจากซากบ้านพักที่พังเสียหาย ลูกน้องอีก 2 คนรอดตายเพราะวิ่งหลบมาที่หน้าห้องพัก
โดยเช้านี้เริ่มทยอยเคลื่อนย้ายซากรถที่เสียหาย ตอนนี้แทบหมดตัว เพราะทั้งอู่ซ่อมรถ บ้านพัก ทรัพย์สินส่วนตัว และรถลูกค้าพังเสียหายทั้งหมด ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยกู้ซากต้นไม้ เพื่อเข้าไปสำรวจความเสียหายอีกครั้ง