21 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนไทย เมียนมาด้านจังหวัดตาก ถึงกรณีมีสตรีชาวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่จีนเทา จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามชายแดน อ.พบพระ และอ.แม่สอด จ.ตาก
โดยหลังจากที่กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) และกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ได้ช่วยเหลือออกมา และพบว่า มีหญิงชาวต่างชาติตั้งครรภ์หลายคน ที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลำบาก และมีปัญหาต่อสุขภาพ และทารกในครรภ์
กลุ่มชาวต่างชาติที่ได้รับผลกระทบได้ขอความช่วยเหลือมายัง นางสาวเจ กฤติญา ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ให้ความช่วยเหลือโดยด่วน ส่งผลให้ทางนางสาวเจได้ทำหนังสือถึงนายชูชีพ พงษ์ไชย ผวจ.ตาก และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อขอให้นำผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน 12 คน ซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด ที่เมืองไถ้ฉาง เขตพื้นที่อิทธิพลของทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.เข้ารับการดูแลที่จังหวัดตาก ตามหลักมนุษยธรรม
ล่าสุดทางทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้มีหนังสือตอบมาแล้วว่า ทางกสม.ได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศในการประสานสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศต่าง ๆ ของสตรีมีครรภ์และผู้ป่วยตามที่ได้รับข้อมูล เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามหน้าที่ และอำนาจ โดยทางกสม.ได้มีหนังสือถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหมในการเตรียมความพร้อมหากมีการร้องขอให้รับบุคคลดังกล่าวมารักษาพยาบาลในประเทศไทยเป็นกรณีเร่งด่วน ทั้งนี้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมตามข้อ18/3 ของระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการในการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน พ.ศ. 2561
สำหรับพื้นที่เมืองไถ้ฉางมีชาวต่างชาติ ที่ถูกขบวนการสแกมเมอร์ชาวจีนหลอกไปเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งหมดจำนวน 320 คน เป็นบุคคลสัญชาติเอธิโอเปีย จำนวน 253 คน นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติอยู่ในพื้นที่กะเหรี่ยงดีเคบีเอ.อีกกว่า 6,500 คน ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างไรก็ดีหญิงที่ตั้งครรภ์มาจากการถูกข่มขืน และมีเพศสัมพันธ์ในลักษณะชอบพอกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 68 มีหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งเกิดแท้งลูกไป