รวบ 2 แม่ลูกโหด ฆ่าพ่อยัดกระสอบ ทิ้งป่ากระถินริมถนนสาย 331

6 มีนาคม 2568 ความคืบหน้าเหตุสะเทือนขวัญ พบศพชายถูกยัดกระสอบปุ๋ย ถูกทิ้งหมกไว้ในป่ากระ ริมถนนสาย ฝั่งขาเข้าสัตหีบ หลัก กม.25 / 100-200 หมู่ 10 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เสียชีวิตแล้วมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน ซึ่งในตัวพบบัตรประชาชน ชื่อ นายวัชระ อายุ 52 ปี เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ( รปภ.) แห่งหนึ่งในอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง



 

โดยต่อมา ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ และ ชุดสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี ได้ร่วมกันสอบปากคำ นางรัตติกาล อายุ 46 ปี ภรรยาของผู้ตาย นานเกือบ 10 ชั่วโมง ซึ่งจากการสอบปากคำ ตำรวจพบข้อพิรุธหลายอย่าง เนื่องจากคำให้การของ นางรัตติกาล ไม่สอดคล้อง กับภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ทางตำรวจได้มา ทั้งวันเวลา สถานที่ และ ไทม์ไลน์ ของผู้ตาย ไม่ตรงกับคำให้การของ นางรัตติกาล

จากการกดดันอย่างหนักของตำรวจ สุดท้าย นางรัตติกาล ยอมรับว่า ได้ร่วมมือกับ นายวรยุทธ์ หรือ ต้น อายุ 30 ปี (ลูกชายคนโต กับสามีคนแรก) ลงมือก่อเหตุฆ่านายวัชระ หรือ ตาเบื๊อก สามีตัวเอง และ มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยง ของลูกชายคนโต

โดยวันที่ 28 ก.พ.68 นายวรยุทธ์ ได้ขับรถกระบ จากอำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ไปรับน้องสาวคนเล็ก ออกโรงพยาบาลมาบตาพุต จากนั้นก็พากลับมาบ้านพัก ในพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. สามี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ซื้อขนมมาฝากลูกสาว ก่อนจะเดินทางกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก ในอำเภอบ้านฉาง



 

จากนั้น ช่วงเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 1 มี.ค. 68 ตนเองกับลูกชาย ได้ขับรถกระบะแคปไปรับสามี ที่บ้านใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยอ้างว่าลูกชายคนโต หรือ นายต้น จะพาสามีไปทำงานด้วย ที่สวนใน อ.แก่งหางแมว จ.ระยอง โดยตอนที่ขับรถออกมาจาก ออกจากบ้านพัก ในอำเภอนิคมพัฒนา ลูกชายเป็นคนขับส่วนตนเองนั่งด้านข้าง

พอมาถึงบ้านของสามี ก็มีการสับเปลี่ยนตนป็นคนขับ ส่วนลูกชายเข้าไปนั่งในแคปเบาะด้านหลัง จากนั้นสามีก็ขึ้นมานั่งเบาะหน้าด้านข้างคนขับ จากนั้นก็เดินทางออกจาก เพื่อมุ่งหน้าไปทางจังหวัด จันทบุรี โดยใช้เส้นทางสุขุมวิท ข้ามมายังถนนสาย 36 ก่อนจะเลี้ยวขวามุ่งหน้า ไปยังจังหวัดจันทบุรี

พอมาบริเวณโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่ง ใกล้กับ แยกบ้านแลง อ.เมือง จ.ระยอง นายต้น ลูกชาย ที่นั่งที่บริเวณเบาะด้านหลัง ( นั่งแคป ) ได้ลงมือใช้สายยางรัดคอพ่อเลี้ยง จนเสียชีวิต จากนั้นตนกับลูกชาย ทำอะไรไม่ถูก ก็พากันขับรถวนอยู่ในเขตอำเภอบ้านฉางและมาบตาพุด จนถึง 9 โมงเช้าของ วันที่ 1 มี.ค. ตนกับลูกชายจึงตัดสินใจ ขับรถกลับไปที่บ้าน ในพื้นที่อำเภอนิคมพัฒนา จ.ระยอง โดยมีการอุ้มร่างสามีไปนอนในเบาะหลังแคป แล้วนำผ้าห่มมาคุมรถ

จากนั้นตนเองกับลูกชายก็เข้าไปในบ้าน และใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเกือบจะเที่ยงคืน ของวันที่ 1 มี.ค. ตอนนี้กับลูกชาย จึงตัดสินใจ นำศพสามีมาทิ้งบริเวณ จุดที่ทิ้งศพ โดยถอยรถลงไปบริเวณดังกล่าว ลากศพสามีไปนอนทิ้งไว้ และหากกระสอบมาคลุมร่างไว้ จากนั้นลูกชายก็กลับไปที่จังหวัดจันทบุรี ส่วนตนเองก็กลับมาใช้ชีวิตปกติที่บ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขณะที่ตำรวจพยายามสอบสวนถึงสาเหตุการลงมือในครั้งนี้ นางรัตติกาล ให้การเพียงว่า เป็นเรื่องของทรัพย์สินระหว่างตนเอง สามี แต่ยังไม่ระบุถึงรายละเอียดเพิ่มเติม

ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับ นางรัตติกาล และ นายวรยุทธ์ ในข้อหา ร่วม กันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และโดยไม่มีเหตุอันควรร่วมกันทำให้เสียหาย เคลื่อนย้ายทำลายทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพกระทำการใดใดแก่ศพ

ส่วน นายวรยุทธ์ ลูกชาย นางรัตติกาล ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี สามารถควบคุมตัวได้แล้วที่ บ้านพักในสวนทุเรียน หมู่ 13 ต.แก่งหางแมว อ.แก่งหางแมว จ.ชลบุรี พร้อมกับยึดรถยนต์กระบะแคป โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง โดยอยู่ในระหว่างการคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม ที่ สภ.ห้วยใหญ่



ด้าน นางสุดใจ หรือ แหม่ม อายุ 54 ปี พี่สาวของผู้ตาย เดินทางมาจากจังหวัดราชบุรี มารอให้การกับพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งเปิดใจกับทีมข่าวว่า คิดไม่ผิดตั้งแต่แรกว่า เป็นฝีมือของน้องสะใภ้ เพราะตนเองเอะใจตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นในข่าว ตอนตำรวจโทรศัพท์ไปบอก ทำไมน้องสะใภ้ไม่มีอาการตกใจ รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ในโน๊ตกระดาษ ที่เจอในศพผู้ตาย ตอนนั้นยืนยันว่า ไม่ใช่ลายมือของน้องชายตัวเอง

ที่ผ่านมาน้องชายรักลูกและเมียคนนี้มาก ยอมทำงานเหน็ดเหนื่อย ได้เงินมาเท่าไหร่ก็ให้ลูกกับเมียหมด โดยครั้งหนึ่งครอบครัวและพี่น้องในจังหวัดราชบุรี เคยเตือนแต่น้องชายไม่ฟัง ยอมรับว่าเสียใจมาก และยืนยันว่าไม่ให้อภัย และขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด