27 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบุรีรัมย์ ได้มีผู้สูงอายุนำสมุดบัญชี และบัตร ATM มาต่อแถวรอถอนเงิน 10,000 บาท เฟสสองที่รัฐบาลโอนเข้าบัญชีวันแรกอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า จะนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว และบางคนก็นำไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพ แต่บางคนนำสมุดบัญชีมาปรับเช็กยอด แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะยังไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี
ขณะที่นายอ้วน อู่สำราญ อายุ 71 ปี และนางนำ อู่สำราญ อายุ 72 ปี สองสามีภรรยาชาวบ้านตามั๊ว ต.บ้านยาง อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพเผาถ่านขายเลี้ยงชีพ และดูแลหลานอีก 3 คน อายุ 1 ขวบ 3 ขวบ และ 11 ขวบ ซึ่งได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟสสอง ก็บอกว่า
"ดีใจมากที่ได้เงินก้อน เหมือนมาต่อลมหายใจให้กับครอบครัว เพราะปกติมีแค่เงินเบี้ยยังชีพคนชรา คนละ 700 บาท และเงินจากการเผาถ่านขายสัปดาห์ละ 400 – 500 บาทเท่านั้น ซึ่งต้องใช้กินอยู่ถึง 5 ชีวิต ส่วนเงิน 10,000 บาท ที่ได้รับในครั้งนี้ ก็จะนำไปจ่ายค่าไฟ เพราะบ้านถูกตัดไฟ ต้องใช้ชีวิตอยู่ในความมืดมา 2 เดือนแล้ว เงินที่เหลือก็จะเก็บไว้ซื้อข้าวสาร และกับข้าวไว้กินอยู่ ก็ขอบคุณรัฐบาลที่มีโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท"
ด้านนายรมย์ ดาทอง บอกว่า รู้สึกดีใจที่ได้เงินดิจิทับ 10,000 บาท ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือในโครงการของรัฐบาลเลย เงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นโครงการแรกที่ได้รับจากรัฐบาล ก็ตั้งใจจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับครอบครัวมากที่สุด ก็อยากให้รัฐบาลมีโครงการแบบนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือคนยากจน