วันจันทร์ที่ 23-27 ธันวาคม นี้แล้วสำหรับการรับสมัครเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ ที่เหลืออีก 47 จังหวัด เช่นเดียวกับจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหัวเมืองใหญ่ของภาคใต้ รองจากนครศรีธรรมราช โดยขณะนี้เริ่มเห็นเค้าของความเดือดในพื้นที่มาสักพักแล้ว หลังจากมีการขยับเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. หลายทีม ทั้ง นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ทีมสงขลาพลังใหม่ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง ประสบการณ์ทำงานราชการยาวนาน พร้อมผลงานล่าสุดเป็นผู้ประสานจัดการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพปีล่าสุด ทำเสียงฮือฮาไม่น้อย
นายประสงค์ บริรักษ์ ทีมสงขลาเข้มเข็ง คนนี้เป็นผู้บริหารท้องถิ่นมากว่า 20 ปี ดีกรีไม่ธรรมดา ส่วน นายนิรันดร์ จินดานาค จากพรรคประชาชน คนนี้เป็นนักกิจกรรมมากประสบการณ์การทำงานหลากหลายอาชีพ ทั้ง ครู แอร์สจ๊วต พร้อมแรงหนุนจาก สส. ประชาชนในภาคใต้อีกเพียบ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีได้พูดคุยกับอีกหนึ่งว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา ทีมสงขลาพลังใหม่ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม เปิดใจก่อนถึงสัปดาห์แห่งการสมัครรับเลือกตั้งว่า ตนขอเคลียร์เรื่องบ้านใหญ่แบบนี้ว่า การสมัครนายก อบจ.สงขลา นั้น ตนพูดมานานกว่า 2 ปี แล้วว่า หากจะลงก็ขอไม่สังกัดพรรคใดเลย เพราะเราสนิทกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค เพราะตนเป็นอธิบดีโดยเฉพาะท่านอนุทินก็เป็นเพื่อนผม และปรึกษากันว่าจะไม่ลงในนามพรรค แกก็ยังบอกว่าดีแล้วทำท้องถิ่นไม่ควรลงให้พรรคไหน ส่วนทางฝั่งประชาธิปัตย์ผมก็เคยคุยกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค นายกชาย พี่นิพนธ์ ก็เช่นกัน เราคุยกันมานานแล้ว คือทุกคนก็เข้าใจหมดว่า ตนไม่ได้อิงพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเลย แต่ว่าก็ไม่ได้โกรธเกลียดกันนะ
“เพราะฉะนั้นบางคนที่เขาไม่เข้าใจแล้วคิดว่า คนอยู่พรรคไหนเลยเพราะตนชัดเจนว่าเราคือ “สงขลาพลังใหม่” ส่วนทีม ส.อบจ.ที่มาอยู่ทีมตน เพราะเขาเห็นผลงานที่ผ่านมา เขาก็อยากมาอยู่กับนักบริหารมืออาชีพ แล้วพูดว่าตนเอาคนบ้านใหญ่
“มันไม่ใช่หรอกบ้านใหญ่สงขลา เราเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันทั้งหมด ผมไม่อยากไปทำงานแล้วต้องมาชดใช้บุญคุณกัน ไม่งั้นก็จะบริหารไม่ได้”
เมื่อถามว่า หากมีโอกาสได้เข้าไปบริหาร สิ่งที่อยากทำให้กับชาวสงขลาคือเรื่องอะไร นายสุพิศ บอกว่า เรื่อง อควาเรียมหอยสังข์ปะติมากรรม ของการทุจริตที่ชาวสงขลาเจ็บปวด ตนเองก็เช่นกัน ก้าวแรกที่เราจะเดินและอยากทำให้ได้โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน และหากมีโอกาสก็เอามาให้ อบจ.บริหารจัดการ เปลี่ยนเป็นศูนย์ประชุมจัดแสดงสินค้าโอทอป เพื่อชาวสงขลาส่วนในเรื่องการตัดสินคดีก็ว่ากันไป ไม่อย่างนั้นหากรอคดีเสร็จ หอยสังข์พันล้านก็อาจจะทำอะไรไม่ได้แล้วก็ได้ และคนสงขลาจะมีความสุขหากเราสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งว่า ตนเคยเข้ามาแก้ปัญหาปะติมากรรมอควาเรียมหอยสังข์ที่เกิดจากความล้มเหลวในอดีต
สุดท้าย เมื่อถามว่านายสุพิศ และทีมสงขลาพลังใหม่ จะไปสมัครวันไหน ได้คำตอบว่ายังไม่ชัดขอดูฤกษ์ก่อน