เฝ้าระวังใกล้ชิด หวั่นถล่ม บ้านริมแม่น้ำบางปะกง ทรุดเพิ่มอีก 60 ซม.
เทศบาลตำบลเเสนภูดาษประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ พื้นที่บ้านริมเเม่น้ำบางปะกงทรุดตัว 5 หลัง เร่งใช้งบเยียวยา ขณะที่เจ้าหน้าที่กองช่างเฝ้าระวังเพิ่ม บ้านหลังใหญ่ 4 ล้านทรุด อีก 60 เซนติเมตร เฝ้าระวังรัศมี 500 เมตร
ความคืบหน้าเหตุการณ์บ้านถล่ม ลงตามดินแนวตลิ่งริมแม่น้ำบางปะกง พื้นที่ซอยสถานีอนามัยเก่า ข้างวัดแสนภูดาษ ม.2 ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา การพังทลายลงไปในเเม่น้ำครั้งนี้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายรวม 5 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ ในที่ปลอดภัย โดยเทศบาลภูเเสนดาษ ประกาศเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าไป
ทั้งนี้ สาเหตุของดินริมเเม่น้ำพังทลาย เกิดจากการทำแนวทำนบหิน และ สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งตามชายแม่น้ำแบบต่างคนต่างทำจนเกิดกระแสน้ำวน เปลี่ยนทิศทาง
ล่าสุด ทีมข่าวเนชั่นทีวี ลงพื้นที่ สำรวจพบว่า ทางจังหวัดประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ทางเทศบาลเฝ้าระวังการทรุดตัวของเเนวตลิ่งในรัศมี 500 เมตร เเละ โดยนายสุเทพ กรัสประพันธุ์นายกเทศมนตรี ยังสั่งสำรวจกองช่างสำรวจพื้นที่จุดเสี่ยงอื่นๆริมเเม่น้ำ
ขณะที่ นายเทอดศักดิ์ สาคร รองนายกเทศมนตรี เเสนภูดาษ พร้อมด้วย นายถาวร สุขพงษ์ไทย เลขานุการนายกเทศมนตรี เเสนภูดาษ นำทีมงานกองช่างของเทศบาล เเละ ป้องกันเเละบรรเทาสาธารภัยเทศบาล ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ เเละ ร่วมกันตัดต้นไม้ใหญ่ริมเเม่น้ำ บริเวณบ้านหลังเเรก เพื่อไม่ให้เกิดการรั้งดินริมเเม่น้ำทรุดตัวพังลงไปเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
เจ้าของบ้านที่อยู่ติดกับบ้านพักตากอากาศ หลังละ 4 ล้าน ที่พังลงไปทั้งหลัง เปิดเผยว่า ตอนนี้อพยพออกไปอยู่ข้างนอก เเละจากการเฝ้าระวังโดยใช้เชือกวัดระดับบ้านของตนเองไว้ ขณะนี้ยังไม่ทรุดเพิ่มไปจากเดิม เเต่บ้านหลังที่ทรุดจมลงไปก่อนหน้านี้ ทรุดเพิ่มลงไปอีก 60 เซนติเมตร จึงขอรอดูสถานการณ์ก่อนว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เเต่จะทิ้งพื้นที่ ก็ยังเสียดายที่ดินของตนเองที่อยู่ริมเเม่น้ำ มีความผูกพันธ์ตั้งเเต่บรรพบุรุษ
ส่วนเรื่องความช่วยเหลือจากทางภาครัฐ หากประเมินเเล้วว่า ยังสามารถอยู่ได้ ก็อยากให้ทำเเนวป้องกัน ทั้งตอกเข็ม หรือ ใช้หิน ทำอย่างไรก็ได้ บริเวณข้างบ้านของตน เพื่อให้ยืดเวลาการอาศัยอยู่ได้ก่อน หากบ้านที่ทรุดตัวลงไปไม่เยอะ อย่างน้อยก็น่าจะยังอาศัยอยู่ได้
สำหรับบริเวณริมเเม่น้ำบางปะกงฝั่งตะวันตกที่เกิดปัญหาดินริมตลิ่มทรุดตัว เเต่อีกฝั่งหนึ่งฝั่งตะวันออก ชาวบ้านบอกว่า จะเกิดดินงอกเพิ่มขึ้นทุกปี เเต่ก่อนจะเห็นบ้านอยู่ริมน้ำเเต่ปัจจุบัน ดินงอกออกมา จนบ้านที่เหลือ เข้าไปอยู่ด้านใน เเต่ฝั่งที่เกิดปัญหาชาวบ้านก็เริ่มย้ายทยอยออกกันไป
ด้านการให้ความช่วยเหลือหลัง ทางเทศบาลภูเเสนดาษ ใช้งบฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น หลังจานี้จะประสานกรมโยธา
ธิการทำเขื่อนป้องกันในอนาคต
