svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

แม่ตกใจ ไม่คิดว่าลูกชาย 10 ขวบ จะขี่ซาเล้งข้ามจังหวัดมาหา

แม่ตกใจ ไม่คิดว่าลูกชาย 10 ขวบ จะขี่ซาเล้งข้ามจังหวัด ระยะทางกว่า 130 กม. มาหาเพราะความคิดถึง สู้เก็บเงินวันละ 10 บาท เติมน้ำมันเอง ระบุเรื่องที่น้องขอมาอยู่ด้วยต้องคุยกับปู่และย่าก่อน

จากกรณี ด.ช.นักเรียนชั้น ป.5 อายุ 10 ขวบ ใส่ชุดนักเรียน ขี่ซาเล้ง จาก ต.บ้านแปรง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เพื่อจะไปตามหาแม่ที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ระยะทาง 130 กม. เนื่องจากทนความคิดถึงแม่ไม่ไหว โดยเจ้าหน้าที่ อบต.สำพะเนียง อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา พบเห็นขณะที่ ด.ช.ดังกล่าวกำลังขับขี่ซาเล้งบนถนนหลวงสาย 207 บ้านวัด-ประทาย จึงรีบให้การช่วยเหลือ เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นได้ โดยเร่งประสานกับคณะครูและผู้ปกครองมารับตัว 

เบื้องต้น ทราบว่า น้องเติ้ล ได้แอบเอารถจักรยานยนต์ซาเล้งของย่า ออกมาจากบ้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า ของวันที่ 7 พ.ย.2567 เพื่อจะไปตามหาแม่ที่อำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากช่วงปิดเทอมแม่จะมารับไปอยู่ด้วย เมื่อเปิดเทอมน้องจึงกลับมาอยู่กับย่า เมื่อกลับมาอยู่บ้านย่า น้องคิดถึงผู้เป็นแม่จึงได้แอบหนีมา โดยเก็บเงินค่าขนมไปโรงเรียนวันละ 10 บาท เพื่อเป็นค่าน้ำมัน เมื่อเก็บเงินได้ครบ 100 บาท จึงฉวยโอกาสช่วงที่ย่าเผลอ แอบขับรถหนีออกมาโดยทันที 

แม่ตกใจ ไม่คิดว่าลูกชาย 10 ขวบ จะขี่ซาเล้งข้ามจังหวัดมาหา

โดยระหว่างขับขี่มา ก็สอบถามเส้นทางตามรายทางไปเรื่อยๆ เนื่องจากน้องไม่ทราบว่า จะต้องเดินทางไปทางไหน จนกระทั่งมาถึงบ้านสำพะเนียง มีชาวบ้านเห็นผิดสังเกตจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบช่วยเหลือ เกรงว่าถ้าหากปล่อยให้เดินทางต่อ น้องอาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้ เบื้องต้น นายก อบต.สำพะเนียง ได้ประสานกับผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองปรือ อ.ด่านขุนทด และครูประจำชั้น ให้แจ้งญาติของน้องเดินทางมารับตัวกลับไปยังอำเภอด่านขุนทด หรือ หากน้องต้องการเดินทางไปหาแม่ ทางโรงเรียนจะดำเนินการไปส่งให้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสำพะเนียง ได้รวบรวมเงินได้จำนวนหนึ่ง พร้อมเสื้อผ้า เพื่อให้น้องเติ้ลเป็นค่าเดินทาง โดยกำชับว่าห้ามขับขี่รถหนีออกมาเช่นนี้อีก พร้อมมอบนามบัตรส่วนตัว ของ นายก อบต.สำพะเนียง หากมีเรื่องเดือดร้อน สามารถโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือได้ทันที 

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นายวรากร พุฒิพงศ์ นายก อบต.สำพะเนียง อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ 7 พ.ย.67 คณะครูโรงเรียนบ้านหนองปรือตำบลบ้านแปรง ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาได้เดินทางมา พร้อมกับย่าของเด็ก เพื่อมารับตัวน้องเติ้ลและได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจ โดยน้องเติ้ลเอาแต่นั่งร้องไห้อยากจะไปหาแม่ด้วยความคิดถึง ย่าจึงโทรศัพท์ให้พูดคุยกับแม่จนเด็กมีท่าทีอ่อนลง โดยแม่น้องรับปากว่าจะมาหาในวันเสาร์ที่ 9 พ.ย.นี้ เด็กจึงได้ยอม 

แม่ตกใจ ไม่คิดว่าลูกชาย 10 ขวบ จะขี่ซาเล้งข้ามจังหวัดมาหา
 

จากนั้นคณะครูและย่า จึงได้ขนรถจักรยานยนต์ซาเล้ง และพาน้องขึ้นรถกระบะกลับไปยังบ้านย่าที่ด่านขุนทด พร้อมประสานให้แม่ของเด็กเดินทางมาหาที่บ้านย่า เพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ หากเด็กชายมีความต้องการที่จะย้ายกลับไปอยู่กับผู้เป็นแม่ ก็ต้องทำเรื่องในการย้ายสถานศึกษา และดำเนินการทางกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน

แม่ตกใจ ไม่คิดว่าลูกชาย 10 ขวบ จะขี่ซาเล้งข้ามจังหวัดมาหา

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านพลับ ต.สะแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์  ไปพบกับ นางสาวหนูน้อย ทิพย์สันเทียะ อายุ 40 ปี แม่ของน้องเติ้ล เล่าว่า ตนเองมีลูก 3 คน น้องเติ้ล เป็นคนสุดท้อง ต่อมาตนเองได้แยกทางกับพ่อของน้องเติ้ล ช่วงนั้นลูกอายุ เพียง 3 ขวบ พ่อของน้องเติ้ล เอาไปเลี้ยงดูแทน แต่ตนเองก็ไปดูน้องเติ้ลตลอด ช่วงที่ลูกอยู่กับปู่ ยา ที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเองไปรับน้องเติ้ล มาเที่ยวงานแข่งเรือ ที่อำเภอสตึก และเพิ่งกลับไปส่งลูกที่อำเภอด่านขุนทด ได้เพียง 2 วัน จนช่วงเย็นเมื่อวาน ( 7 พ.ย.2567) ครูได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างจะมาหาตนที่ อำเภอสตึก ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจเป็นอย่างมาก คาดว่าลูกชายอาจจะคิดถึงแม่จึงขี่รถมาหา 

โดยนางสาวหนูทิพย์ ได้วีดีโอคอลหาน้องเติ้ล ซึ่งได้บอกน้องเติ้ล ว่าให้ตั้งใจเรียน อย่าทำแบบนี้อีก เพราะจะเกิดอุบัติเหตุ และทุกคนเป็นห่วง โดยช่วงปีใหม่และปิดเทอม แม่จะไปรับน้องเติ้ลมาอยู่ที่ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนที่น้องเติ้ล บอกว่าอยากจะมาเรียนที่โรงเรียนที่อำเภอสตึกนั้น จะต้องมีการพูดคุยกับปู่ ย่าของน้องเติ้ลก่อน เพราะปู่กับย่า เลี้ยงน้องมาตั้งแต่เล็ก และช่วยงานบ้าน โดยตระเวนขายผักให้กับ ปู่ ย่า ด้วย

แม่ตกใจ ไม่คิดว่าลูกชาย 10 ขวบ จะขี่ซาเล้งข้ามจังหวัดมาหา