จากกรณีที่มีข่าวว่า "อ.อ๊อด ตี๋ลี่ฮวงจุ้ย ซินแสดัง" ที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความเอาผิด กรณีหลอกดูดวง ลวงผู้เสียหายทำพิธีและซื้อวัตถุมงคล แต่ไม่ได้รับวัตถุมงคลจริง ได้นำข้าวของมาทำพิธีปลุกเสก ที่วัดโพสพ ผลเจริญ
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดโพสพผลเจริญ ต.คูคต อ.เมือง จ.ปทุมธานี พบกับ พระครูสมุห์ประทิพย์ ปทีโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดโพสพ ผลเจริญ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทางบ้านเขามีความเชื่อถืออาตมามาตั้งแต่รุ่นพ่อเขา แต่ทางคุณอ๊อดเขายังไม่ได้ทำ ตัวพ่อเขาทำมาก่อน โดยเมื่อก่อนพ่อของเขามีอาชีพขับรถแท็กซี่และขายปลาดุก ส่วนแม่เค้าก็ขายข้าวแกง อย่างที่รู้มาแล้ว
ต่อมาพ่อของเขาก็ได้ตำราจากคนจีนมาก็มาศึกษาและเผยแพร่ทำธุรกิจดูฮวงจุ้ยตามบ้าน สมัยก่อนก็ออกทีวีช่องหนึ่งจิระ แถวนั้นก็มีดาราต่างๆหลายคนที่เป็นลูกค้าของจิระ แล้วต่อมาจิระเขาแก่อายุก็ร่วมประมาณ 80 ปี ลูกเค้าก็เรียนวิชาดูฮวงจุ้ยตามพ่อเขาแล้วก็มาประกอบอาชีพอย่างที่ท่านทั้งหลายได้เห็น
แต่ว่าชีวิตเขามาพลิกผันเพราะติดการพนัน ที่ตนทราบว่าเขาติดการพนัน เพราะว่าตนโทรไปถามลูกน้องเขาว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ถามลูกน้องเขาเขาบอกว่าอยู่ปอยเปรต อาตมาก็เลยเตือนไปว่าอย่าไปเลยนะ อาจจะเสียทรัพย์สินเงินทองหรือหมดตัวได้ซึ่งอาตมาก็เตือนเขาไปสองถึงสามครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เชื่อ
ซึ่งที่พ่อเขามาทำธุรกิจนี้ เพราะเขามีความเชื่อมั่นในตัวของอาตมา เขาก็ได้มาเจิม แล้วต่อมาพาลูกเขามาทำธุรกิจต่อก็ได้มาเจิมที่ฉัน ซึ่งอาตมาก็เจิม ฉันก็เจิมให้เขามาประมาฯ 3-4 ปี ไม่เกิน 5 ปี เพราะว่าคนที่รับไปก็รู้สึกว่ามีฐานะเพราะเจิมไปแล้วก็ดูว่าเข้มแข็ง แล้วก็เกิดศรัทธา
โดยตัวนายอ๊อด ไม่เคยมาเอง ให้ลูกน้องเขามาแทน โดยนำของใส่รถตู้แล้วเอามาเจิม ซึ่งตนเองจะได้ค่าเจิมชิ้นละ 50 บาท ส่วนอย่างอื่นอาตมาไม่ได้มีส่วนร่วมกับเขา
นอกจากนี้ ก็เคยเอาสิงห์คาบดาบมาให้เจิมด้วย ก็ชิ้นละ 50 บาทเหมือนกัน พวกกิเลนนานๆ จะมี เพราะว่ากิเลนจริงๆมันไม่ใช่เป็นสัตว์โชคลาภ มันเป็นสัตว์อำนาจ แต่คนจีนเขาถือโชคลาภ อาตมาก็เคยไปเข้าร่วมพิธีเจิมสิงห์คู่ ที่โกดังของเขา แต่พักหลังก็ไม่ค่อยได้ไป เพราะว่าเขาจะเชิญพระจีนมาทำพิธีแทน ซึ่งตนเองนานๆ จะไปเจิมให้เขาทีนึง เจอมาประมาณ 2-3 ครั้งเอง
และสิงห์คาดว่าจะนำมาจากโคราช หรือไม่ก็แถวอ่างศิลาชลบุรี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแบบนี้ สิงห์ไม่ได้มาจากประเทศจีนแถมเงินยังค้างพ่อค้าอยู่ประมาณ200,000- 300,000 บาท
ส่วนตัวนายอ๊อด ที่อาตมารู้มาก็ประมาณ4-5ปี แล้วเกี่ยวกับเรื่องการพนัน เพราะว่าเวลาโทรไปก็จะบอกอยู่ที่ปอยเปรต ก็แนะนำเขาว่าอย่าเข้าไปยุ่งเพราะคนไปเล่นแล้วเสียเยอะ เขาก็ไม่เชื่อ แต่นี่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เป็นสิทธิของเขา เขาจะเล่น ซึ่งตัวอ๊อด เขาติดการพนันงอมแงม และไม่ได้เล่นแค่การพนันอย่างเดียว ยังเล่นบอลด้วย
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเรื่องแล้ว ตนเองไม่เคยติดต่อตัวนายอ๊อดเลยตั้งแต่แรก แต่จะติดต่อทางลูกน้องเขา แต่ก็ไม่ได้ติดต่อเพราะรู้ว่าตัวนายอ๊อด นั้น อยู่ปอยเปรต ซึ่งตนเองจะติดต่อผ่านทางนายเอ๋ ซึ่งเป็นคนดูแลทรัพย์สินเงินต่างๆของนายอ๊อด เพราะทุกอย่างนายเอ๋ จะเป็นคนจัดการทั้งหมด อาตมามาได้ข่าวมาว่า ลูกน้องผู้หญิงทางนายอ๊อด ก็ยังติดเงินเค้าอยู่
ส่วนเรื่องการเจิมนั้น จะเป็นเรื่องของการเจิมน้ำเต้าเงิน น้ำเต้าทอง แต่ส่วนมากจะเป็นน้ำเต้าทองมากกว่า เพราะว่าขายได้ราคาดี โดยนำไปขายที่ต่างประเทศในราคาใบละ 3,000-4,000 บาท
"ครอบครัวนี้ให้อาจารย์เจิมกันทั้งบ้าน โดยพ่อเขาชื่อจิระ แม่ชื่อยายอี๊ด พี่สาวเขาอีกสองคนก็ทำแบบนี้เช่นกัน แต่บริษัทของเขาไม่รุ่งเหมือนกับบริษัทของนายอ๊อด เพราะของนายอ๊อดรุ่งแล้วก็ร่วง ซึ่งทางครอบครัวเขาไม่ถูกกัน เขาแยกกันทำ โดยพี่สาวเขามีสองคน เป็นแอร์โฮสเตท มีคนผอมกับคนอ้วน พี่สาวของเขาทั้งสองคนก็เคยเอาของมาให้อาตมาเจิม แต่เขาจะมาไม่เยอะมีประมาณ 10 ถึง 20 ชิ้น เพียงเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นน้ำเต้ากับสิงห์คาบดาบ แต่เค้าจะแยกกัน เพราะเขาไม่ถูกกัน"
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ กล่าวอีกว่า พี่สาวกับพี่เขยของอาจารย์อ๊อด เขามาหาเดือนที่แล้ว ก็มาบ่นว่า อาจารย์ผมไม่สบายใจอ๊อดมันติดการพนัน ฉันเลยบอกว่า ฉันตักเตือนเขา 3 ครั้งแล้ว บอกกับลูกน้องเขาไป ซึ่งบอกคนชื่อเอ๋ ไปว่าอยากเข้าไปเล่นนะ ใครเข้าไปแล้วมันหมดตัวนะ เขาก็เฉย บอกไปแล้ว เขาไม่เชื่อก็เป็นกรรมของเขา เพราะตัวพี่สาวเองก็พูดไม่ได้ เพราะว่าไม่ถูกกันอยู่แล้ว พอไปตักเตือนเขา เขาก็ด่ากลับมาอีก มันก็เป็นปัญหาก็ต้องให้พ่อเขาตักเตือน ให้แม่เค้าตักเตือน ถึงจะเชื่อ
พวกตึกนายอ๊อด ก็เคยเอาไปจำนองและพ่อกับแม่เขาก็ได้ไปไถ่คืนมา น่าจะเยอะประมาณ 10 ถึง 15 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งตึกแล้วก็บ้านที่โดนยึดไปแล้วที่เอาไว้วางสิงห์วางอะไรไว้ที่เป็นที่พักที่เก็บของที่เป็นโกดังโรงงาน ส่วนบ้านที่เชียงใหม่หลวงพ่อก็รู้ว่าเขามีมานานแล้ว โดยบ้านของเขามันทรุด ก็เลยไม่ได้อยู่ เหมือนว่าถมดินแล้วก็สร้างแล้วมันทรุดก็เลยไม่ได้อยู่ แต่อาตมาก็รู้มานานแล้วว่า เขาซื้อบ้านไว้ และเขาคงซื้อไว้หลายหลัง ตอนนี้ก็คงจะหมดแล้ว ส่วนยันต์ที่เขียนลงไปในน้ำเต้านั้นจะเป็นยันต์ของหลวงพ่อเดิม กับหลวงปู่โต วัดระฆัง และหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า