จากกรณี อดีตข้าราชการครู วัย 64 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หมดหนทางรักษา ลูกชายวัย 42 ปี ติดยาเสพติดอย่างหนัก เคยส่งไปบำบัดรักษาหลายรอบ แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อออกมาก็จะกลับมาเสพยาอีกเหมือนเดิม รวมถึงติดการพนันออนไลน์ ไม่ทำการทำงานชอบขู่ขอเงิน วันไหนแม่ไม่มีเงินให้ก็จะโวยวายอาละวาดทำลายข้าวของ ขู่เอาชีวิต เคยขับรถพุ่งชนบ้านจนพัง ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2567 ลูกชายเกิดหลอนยา คลุ้มคลั่งอาละวาด แม่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่นำตัวส่งไปบำบัดที่ รพ.นางรอง แต่กลัวว่าหากออกมาจะกลับไปเสพยาบ้า และคลุ้มคลั่งอาละวาดอีก แม่จึงจำใจจ้างช่างมาทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งไวไฟ ทีวี ห้องน้ำส่วนตัว และติดกล้องวงจรปิด. เพื่อเตรียมไว้หากลูกออกจาก รพ. เพราะอยากให้ลูกหายจากการติดยาเสพติด รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของแม่เอง และของชาวบ้านในหมู่บ้านด้วย เพราะกลัวว่าถ้าเขาเสพยาหลอนหนักอาจจะทำร้ายแม่หรือคนอื่น
ต่อมาหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องกรงขังที่แม่จ้างช่างทำไว้ในบ้าน เพื่อเป็นสถานที่ดูแลลูกชายหลังออกจาก รพ. เพราะกลัวจะคลุ้มคลั่งทำร้ายแม่ และคนในชุมชน โดยทุกภาคส่วนก็ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะผิดกฎหมายอาญา ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับแม่ พร้อมร่วมกันหาแนวทางแก้ไขแทนการกักขังลูกชาย แต่ยังไม่ได้มีความผิดเพราะแค่สร้างไว้ยังไม่ได้กักขัง
ความคืบหน้า ล่าสุดวันนี้ (6 พ.ย.2567) ซึ่งตามกำหนดเดิมนายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ลูกชายอดีตครูจะต้องออกจาก รพ.นางรองวันนี้ แต่หลังจากที่แม่ไม่สบายใจ กลัวลูกคลุ้มคลั่งทำร้ายทั้งตนเองและคนในชุมชน ถึงขั้นต้องสร้างห้องคล้ายกรงขังในบ้าน ทาง รพ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงพิจารณาให้รักษาต่อที่ รพ.นางรอง และเตรียมส่งไป รพ.บุรีรัมย์ ตามขั้นตอน ก่อนประเมินส่งไปบำบัดรักษาที่ รพ.จิตเวช จ.นครราชสีมาต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามอาการผู้ป่วยพบว่า มีอาการสงบลงจากช่วงที่เข้าไปรักษาตอนแรก ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ปปส.ภาค 3 เตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น และหาข้อมูลเบาะแสในเชิงลึก เกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาดำเนินการกวาดล้างปราบปรามตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป
ด้าน นายอุทัย ม่านทอง กำนันตำบลถนนหัก ระบุว่า เรื่องของผู้ป่วยจิตเวชที่มีผลพวงมาจากการใช้สารเสพติด ในพื้นที่ตำบลถนนหัก แม้จะไม่ทราบข้อมูลตัวเลขที่ชัดเจน แต่ประสบการณ์ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ในการเข้าควบคุมตัวผู้ที่มีอาการคลุ้มคลั่งก็ค่อนข้างเยอะพอสมควร ล่าสุด เมื่อวานนี้ (5 พ.ย.2567) ก็เข้าดำเนินการ 3 ราย แต่เคสที่แม่ถึงขั้นจ้างช่างมาทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เพื่อจะใช้เป็นสถานที่กักขังดูแลลูก ป้องกันไม่ให้ทำร้ายตนเอง และคนในชุมชนนั้น ก็เพิ่งจะเคยเจอเป็นเคสแรก ดังนั้นหลายภาคส่วนก็ต้องร่วมกันในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้เข้มข้นมากขึ้น