สสจ.นราธิวาส แจงแนวทางช่วยเหลือสาวเข็มหักคาช่องคลอด

จากกรณีที่นายอารือมัน เวาะงอย ผู้ใหญ่บ้าน ได้โทรศัพท์ไปหา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอให้ช่วยเหลือลูกบ้านเป็นหญิงสาวอายุ 36 ปี ชาว อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ระบุว่า เมื่อ 18 ปีก่อน ได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ขณะที่หมอเย็บแผลคลอด พยาบาลได้ทำเข็มหล่นไปในช่องคลอด หมอพยายามใช้นิ้วควานหาแต่ไม่สามารถนำเข็มออกมาได้ 

ต่อมามีอาการเจ็บปวดบริเวณท้องน้อยอยู่เป็นประจำเป็นระยะๆ จนแทบทนไม่ได้ กระทั่งปี 2566 ได้ไปตรวจเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลจังหวัด ในภาพที่เอกซเรย์ปรากฏว่ามีเข็มอยู่ในช่องคลอด จากนั้นโรงพยาบาลได้ส่งตัวต่อไปผ่าตัดที่โรงพยาบาล ใน จ.สงขลา แต่ปรากฏว่าเข็มที่อยู่ในช่องคลอดมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอด ทำให้หมอไม่สามารถผ่าตัดได้ ต้องเลื่อนการผ่าตัดมา2 ถึง 3 ครั้ง ปัจจุบันหญิงสาว ยังต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเดือนละประมาณ 3 ถึง 4 ครั้ง ถึงแม้จะใช้สิทธิบัตรทองในการรักษา แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ขณะที่ครอบครัวค่อนข้างมีฐานะยากจน จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย 

ความคืบหน้า วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น. นายมาหามะยากี หะยีมะ นายอำเภอเจาะไอร้อง พร้อมด้วย น.ส. สารินี วงศ์ทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.นราธิวาส และพยาบาลโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จำนวนกว่า 20 คน ได้เดินทางไปพบ น.ส.สารีปะ แวบากา อายุ 36 ปี ที่ได้นัดหมายกันที่บ้านของนายอารือมัน เวาะงอย ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์ไปยังยังนางปวีณา หงสกุล 

ซึ่งการเดินทางมาพบ น.ส.สารีปะ ในครั้งนี้ ทุกฝ่ายได้สอบถาม น.ส.สารีปะ ซึ่งมีความประสงค์ที่จะรักษาอาการเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมานให้หายขาด โดยที่ไม่ได้มีการร้องทุกข์ เพื่อประสงค์จะเรียกเงินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทุกฝ่ายได้ทำการช่วยเหลือมาโดยตลอด รวมทั้งการได้รับเงินเยียวยาหลักแสนมาแล้ว 

โดย น.ส.สารีปะ ได้เล่าว่า เดิมที่เมื่อ 18 ปีที่ผ่านมา ตนได้ไปคลอดบุตรที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อคลอดเสร็จพยาบาลได้ทำการเย็บบาดแผล ด้วยความที่ยาชาที่พยาบาลฉีดให้ยังไม่ได้ออกฤทธิ์ พยาบาลก็ได้เย็บแผลของตน ตนเกิดอาการเจ็บจึงได้ขยับขา ส่งผลทำให้เข็มเกิดหักคาเข้าไปด้านในช่องคลอด พยาบาลเขาก็ควานหาดูแล้วไม่พบ ก็ได้ทำการเย็บแผลจนเสร็จ 

ต่อมา หลังจากตนออกจากโรงพยาบาล แผลตนเริ่มเน่า และมีกลิ่นเหม็น ตนก็เข้ารักษาที่โรงพยาบาลตลอด 1 เดือนทุกวันจนหาย ต่อมาตนเกิดอาการเจ็บท้อง ซึ่งเวลาเจ็บ ท้องจะโตขึ้นมา เมื่อไปหาหมอ หมอจะบอกว่าเป็นโรคกระเพาะ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้ไปหาหมออีกเลย คิดว่าเป็นโรคกระเพาะธรรมดาเหมือนกับที่หมอบอก 

และล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2567 ตนได้ไปหมอหาที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง เนื่องจากตนเจ็บถึงกับเป็นลม ทางโรงพยาบาลได้นำตนเข้าเครื่องเอกซเรย์ พบเข็มยังอยู่ในช่องคลอด จึงได้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯ และโรงพยาบาลนราธิวาสฯ ได้ส่งตัวรักษาต่อที่ มอ.หาดใหญ่ และแพทย์พบว่ามีเข็มอยู่ในช่องคลอด แต่ไม่สามารถที่จะเอาออกมาได้ และหมอได้นัดตนอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2567 ที่จะถึงนี้ 

ส่วนการช่วยเหลือในเดือนมีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ได้มอบเงินเยียวยาให้ จำนวน 1 แสนบาท และทางโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ได้ให้เงินก่อนที่จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท และทุกครั้งโรงพยาบาลเจาะไอร้องจะให้เงินตนเป็นค่าเดินทางครั้ง 500 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม น.ส.สารีปะ ยังได้เล่าถึงการคลอดบุตรอีก 3 คน หลังจากที่เข็มได้หักลงไปในช่องคลอด ว่าการคลอดลูกทั้ง 3 คน ก็เป็นไปตามปกติ 

ด้าน นพ.ถนัด อาวารุลหัก นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส กล่าวว่า เมื่อวาน ( 4 พ.ย.2567) ได้รับการประสานจากมูลนิธิปวีณา หงสกุล ได้ทราบเรื่องของหญิงสาว อายุ 36 ปี เป็นชาวเจาะไอร้อง ว่า เมื่อ 18 ปีที่แล้วได้ไปทำคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นราธิวาส บอกว่ามีสิ่งแปลกปลอมค้างอยู่ในช่องคลอด หลังจากนั้นได้พยายามเอาออกแต่หาไม่เจอ จนมา 2 ปีที่แล้วทางผู้ป่วยมีอาการปวดท้องเป็นพักๆ ก็เลยได้มาหาหมออีกครั้งหนึ่ง ทางโรงพยาบาลได้ตรวจอัลตร้าซาวด์ปรากฏว่า ได้มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในมดลูก ก็เลยได้ประสานไปยังโรงพยาบาล จ.นราธิวาส ปรากฏว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่จริง ได้พยายามที่จะเอาออกปรากฏว่าเอาออกไม่ได้ เนื่องจากสิ่งแปลกปลอมมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา 

ทางโรงพยาบาลนราธิวาสฯ จึงได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ แต่ก็ยังทำการผ่าตัดไม่ได้ เพราะว่า สิ่งแปลกปลอมยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ในเคสนี้ ทาง สป.สช.และทางโรงพยาบาลได้เยียวยา ซึ่งทาง สป.สช.ได้เยียวยยา ตาม ม.41 โดยมอบเงินให้ผู้ป่วยรายนี้แล้ว 1 แสนบาท และแต่ละครั้งที่เราพาผู้ป่วยไป มอ. ทางโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยไปทำคลอดไปอำนวยความสะดวกไปส่งถึง มอ. ทั้งไปและกลับ และยังให้ค่ารับประทานอาหารในแต่ละครั้งที่ไปและได้ดูแลมาตลอด  

“นอกจากดูแลการไปรักษาที่ มอ.แล้ว ทางโรงพยาบาลก็ได้มีการไปเยี่ยมให้กำลังใจ ตอนนี้ทางโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยไปทำคลอดก็ยังดูแลอยู่ตลอด ในเบื้องต้นได้รับทราบเราก็พยายามติดต่อกับผู้ป่วยโดยตรง ตอนนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสาธารณสุข จ.นราธิวาส ให้ประสานกับผู้ป่วยแล้วก็ผู้ที่เกี่ยวข้อง จะได้ทราบถึรายละเอียดต่อไป ” นพ.ถนัด นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส กล่าว 

นอกจากนี้ นพ.ถนัด นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ซึ่งผู้ป่วยได้ไปรักษาที่ มอ. หาดใหญ่ ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2567 ทางแพทย์ได้สรุปว่า อาการปวดท้องหลายจุดของผู้ป่วยไม่มีความสัมพันธ์กับสิ่งแปลกปลอมเข็มที่ฝังอยู่ข้างใน ซึ่งคุณหมอบอกว่า หากจะผ่าตัดผู้ป่วย ทางแพทย์ได้ให้ผู้ป่วย และญาติตัดสินใจในการรักษา ทางผู้ป่วยและญาติยังปฏิเสธการรักษาอยู่ตอนนี้ แพทย์ก็เลยบอกว่าถ้าปฏิเสธการรักษา หากมีอาการมากขึ้นก็ให้รีบมาก่อน หรือถ้าไม่มีอาการ คุณหมอก็นัดเดือนต่อไปธันวาคม 2567 

อย่าไรก็ตาม ทาง สสจ.นราธิวาส ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ถามรายละเอียดถึงความเป็นไปความเป็นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้ เราจะได้ไปประสานหลายๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่จะดูแลผู้ป่วยรายนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะพยายามไปพูดคุยแล้วก็จะดำเนินการดูแลผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด และอยู่ที่คุณหมอเจ้าของไข้ว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งทางเราจะประสานทั้งผู้ป่วยและแพทย์ผู้รักษาต่อไป