svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

ผู้ว่าฯ อยุธยา เซ็นคำสั่งย้ายฝ่ายปกครอง พันคดีรีดเงินบรรทุกสินค้า 2.5 แสน

สูตรเดิม! ผู้ว่าฯ อยุธยา เซ็นคำสั่งย้าย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สั่งตำรวจเร่งสืบสวน-คลี่คลายปม กรณีพัวพันคดีรีดเงินรถบรรทุกสินค้า 2.5 แสน บนถนนพหลโยธิน พื้นที่ อ.วังน้อย ลั่นหากผิดจริง ”เทวดาหน้าไหน” ก็ช่วยไม่ได้

5 พฤศจิกายน 2567 ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายศุภกร อนันตรักษ์ ป้องกันจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย อส. และเจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย หลังถูกกล่าวหาว่า รู้เห็นในการตรวจค้นรถสินค้า แล้วเรียกรับเงิน จำนวน 2.5 แสนบาท เหตุเกิดในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา บนถนนพหลโยธิน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายศุภกรณ์ เปิดเผยว่า  ขณะที่พวกตนปฎิบัติหน้าที่ตรวจพื้นที่สถานบันเทิง อ.อุทัย ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ ซึ่งทราบชื่อทั้งหมดแล้ว อ้างเป็นพนักงานของรัฐฯ และได้มีการแอบอ้างว่า ติดตามเรื่องยาเสพติด และกำลังจะไปดักจับ โดยมีการขอกำลัง อส.ไปส่วนหนึ่ง จนกระทั่งพบรถสินค้าคันดังกล่าวในพื้นที่เกิดเหตุ  
ผู้ว่าฯ อยุธยา เซ็นคำสั่งย้ายฝ่ายปกครอง พันคดีรีดเงินบรรทุกสินค้า 2.5 แสน
 

อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการตรวจค้นแล้ว ปรากฏว่า ไม่พบยาเสพติด พวกตน และ อส.ที่ร่วมกันตรวจค้น จึงได้ปล่อยรถดังกล่าวไป  โดยไม่ทราบว่า ระหว่างการตรวจค้นนั้น มีการเจรจาอะไรกับใครอย่างไร จนกระทั่งทราบว่า มีผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ  ดังนั้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงได้มาแจ้งความ เพื่อให้ดำเนินคดี กับกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว จำนวน 6 คน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนกับพวกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด  

ทั้งนี้ ทราบว่า กลุ่มชายดังกล่าว แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐฯ  และเห็นทั้งหมดไปร่วมในการตรวจค้น ทั้งงานของปกครอง และตำรวจ เบื้องต้นจึงไม่ได้สงสัย เพราะคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบประวัติพบว่า ทั้งหมดเคยมีคดีแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และเรียกรับเงินและผลประโยชน์ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด และติดตามเส้นทางการเงินของคนทั้งหมด เบื้องต้นทราบชื่อทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ 
ผู้ว่าฯ อยุธยา เซ็นคำสั่งย้ายฝ่ายปกครอง พันคดีรีดเงินบรรทุกสินค้า 2.5 แสน

ด้าน นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าฯ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงาน และทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้เรียกตัว นายศุภกร และเจ้าหน้าที่ อส.ทั้งหมด ประมาณ 17 คน มาสอบถามข้อเท็จจริง จนทราบว่า ทั้งหมดถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวแอบอ้าง และชักชวนไป โดยอ้างว่ามีรถบรรทุกขนยาเสพติด จะวิ่งผ่านถนนพหลโยธิน ในพื้นที่ อ.วังน้อย ดังนั้น จึงได้มีการแบ่งกำลังไปช่วยตรวจค้นรถบรรทุก จำนวน 2 คัน แต่เมื่อไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงปล่อยรถดังกล่าวไป แล้วแยกย้ายกันเดินทางกลับ โดยไม่ทราบว่า มีการเรียกรับเงิน 

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามในเบื้องต้น ตนก็ยังไม่ปักใจเชื่อ  ดังนั้น จึงได้แต่งตั้ง นายเดชาธร เชาว์เลขา รักษาการปลัดจังหวัดฯ เป็นประธานในการการสอบสวนข้อเท็จจริง และสั่งย้ายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ไปช่วยราชการเป็นการชั่วคราว จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ 

นอกจากนี้ยังได้ประสานงานไปยัง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง และดูเส้นทางการเงินของบุคคลที่แอบอ้างว่า มีการโอนเงินไปที่ใด ซึ่งขณะนี้ได้ชื่อมาทั้งหมดแล้ว และทั้งหมดไม่ได้เป็นข้าราชการ  

"เบื้องต้น ทราบว่า หนึ่งในจำนวนผู้ก่อเหตุนั้น เป็นผู้ที่เคยมีคดีแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐฯ และเรียกรับเงินและผลประโยชน์อีกด้วย ซึ่งตนต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน หากมีความผิดจริงก็ว่ากันไปตามตัวบทกฏหมาย ซึ่งผมจะไม่เห็นแก่หน้าอิฐหน้าพรหม และ “เทวดาหน้าไหน” ทั้งสิ้น"  ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ว่าฯ อยุธยา เซ็นคำสั่งย้ายฝ่ายปกครอง พันคดีรีดเงินบรรทุกสินค้า 2.5 แสน