ไม่รอด หนีคดีมา 19 ปี ซ่อนตัวบนเกาะสมุย ตร.ตามจนเจอ เกือบได้เป็นอิสระ

วันที่ 9 ตุลาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยตำรวจกองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 6 ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. ,พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป, พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมษฐ์ อัครโชควรานนท์, พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ลงเรือเฟอรี่ข้ามทะเล เพื่อตามไป จับกุม นายรัฏฐกร พรหมห้อง อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดพัทลุง ที่ จ.515/2548 ลงวันที่ 1 ธ.ค. 2548 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” ซึ่งหลบหนีการจับกุมมา 19 ปี เต็ม และเหลืออายุ ความเหลืออีกแค่ปีเดียวก็จะเป็นอิสระ 

ทั้งนี้ ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 พยายามสืบสวนหาเบาะแส จนทราบว่า นายรัฏฐกรฯ ได้หลบหนีและมาทำงานอยู่บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จึงลงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลมาติดตามจับกุมจนพบตัว และจับกุมได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งบนเกาะสมุย ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่5 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย ขณะกำลังออกไปทำงานในตอนเช้า พร้อมกับแสดงหมายจับให้ดู แต่ นายรัฏฐกรฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงคุมตัวส่งสภ.เมืองพัทลุง พื้นที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดี 

สำหรับคดีนี้ย้อนหลังไปเมื่อประมาณปลายปี 2548 นายรัฏฐกรฯ พร้อมพวก ได้ไปเที่ยวสถาน บันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดพัทลุง จนเกิดมีปากเสียงกับคู่กรณีในร้าน หลังจากร้านปิด นายรัฏฐกรฯ พร้อมพวก ได้ขับรถยนต์เก๋งตามหาคู่กรณีที่มีปากเสียงกันในร้าน จนมาถึงบริเวณหน้าสวนสาธารณะกาญจนาภิเษก ถนนราเมศวร์ ต.คูหาสวรรค์ อำเภอเมืองพัทลุง ได้สังเกตเห็นคู่กรณี ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว นายรัฏฐกรฯ  ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่กรณีจนเสียชีวิต

ซึ่งหลังก่อเหตุ นายรัฏฐกรฯ กับพวก ได้แยกย้ายกันหลบหนี จากนั้นไม่นาน เพื่อนของนายรัฏฐกรฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ ส่วนนายรัฏฐกรฯ ยังคงหลบหนีคดี และย้ายถิ่นฐานที่อยู่อาศัยไปเรื่อยๆ เพื่อหลบหนีการจับกุม จนเวลาผ่านไปเกือบ 19 ปี เหลืออายุความอีกแค่ปีเดียว ก็จะเป็นอิสระ แต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุมตัว นายรัฏฐกร มาสอบสวน เจ้าตัวไม่ขอให้การใดๆในชั้นสืบสวน แต่ยอมรับว่าเมื่อรู้ว่าถูกออกหมายจับก็หลบหนีการจับกุมมาตลอด และคิดว่าหนีมาอยู่ที่เกาะสมุย ซึ่งเป็นเกาะกลางทะเลตำรวจคงตามไม่พบ และตลอด19ปีที่ผ่านมา เลี่ยงการแสดงตัวทุกอย่าง ไม่ทำธุรกรรมใดๆ กับทางราชการ บัตรประชาชนหมดอายุก็ไม่กล้าไปต่อ แม้แต่ถูกรถชนบาดเจ็บก็ไม่ไปรักษาที่โรงพยาบาล ช่วงโควิดก็ไม่ไปฉีดวัคซีน หรือแม้แต่วันเผาศพพ่อที่บ้านเกิดที่ จ.พัทลุง ก็ไม่กล้ากลับไปร่วมงาน เพราะทราบว่ามีตำรวจไปเฝ้าอยู่ด้วย คิดว่าอดทนอีกนิดเหลือแค่ปีเดียว คดีก็จะหมดอายุความแล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกตำรวจตามมาจับกุมได้ถึงเกาะสมุย