วันที่ 8 ตุลาคม 2567 เมื่อเวลา 08.55 น. คนร้ายเป็นชายสวมเสื้อแขนยาวสีดำแบบมีฮู้ด ทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อทองภายในร้านทองแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายอู่ทอง ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลกาญจนบุรี ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยคนร้ายได้ทำทีขอเลือกดูสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะอาศัยจังหวะที่เจ้าของร้าน และพนักงานภายในร้านเผลอ คว้าสร้อยข้อมือทองคำทั้ง 2 เส้น และพยายามวิ่งหนีออกไปด้านนอกร้าน โดยที่พนักงานและเจ้าของร้านพยายามไล่ตามจับตัวคนร้ายรายดังกล่าวไว้ แต่คนร้ายก็ยังวิ่งหนีออกทางประตูหน้าร้านไปได้ ก่อนจะพยายามสตาร์ทรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านขี่หลบหนีไป แต่ถูกเจ้าของร้านที่วิ่งตามมาติดๆ กระโดดถีบรถจักรยานยนต์จนล้มลง คนร้ายจึงทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีไปทางบริเวณสี่แยกอู่ทองตัดทางรถไฟ
หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าของร้านทองได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้าย โดยมีพลเมืองดีเห็นว่าคนร้ายรายนี้ ได้วิ่งหลบหนีไปตามรางรถไฟ และหนีเข้าไปซ่อนตัว บริเวณป่ารกร้างเลียบทางรถไฟ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพบเสื้อผ้าของผู้ก่อเหตุ ถูกถอดทิ้งไว้ข้างบ้านหลังหนึ่ง และมีรอยเท้าปีนกำแพงเข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการปิดล้อมตรวจค้น กระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ทราบชื่อคือนายโซ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 28 ปี สัญชาติเมียนมาร์
โดยขณะจับกุม นายโซ อยู่ในสภาพ สวมกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบภายในห้อง ซึ่งนายโซไปซ่อนตัว พบสร้อยข้อมือทองคำ 2 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท อยู่ในห่อเสื้อยืดสีดำ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นพยานหลักฐาน ก่อนจะควบคุมตัวนายโซ กลับมาที่ร้านทองที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าของร้านชี้ตัว และยืนยันว่า นายโซ เป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุจริง ก่อนจะควบคุมตัวกลับไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี โดยนายโซ รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากต้องการนำเอาสร้อยข้อมือทองคำทั้ง 2 เส้นไปขาย เพื่อหาเงินสำหรับใช้เดินทางไปหาแฟนสาวที่จังหวัดสระบุรี แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว