6 ตุลาคม2567 "การรถไฟแห่งประเทศไทย" แจ้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทาง ขบวนรถสายเหนือ 12 ขบวนเป็นการชั่วคราว หลังน้ำท่วมเชียงใหม่อีกระลอก
พร้อมจัดรถโดยสารอำนวยความสะดวกรับส่งประชาชนจากสถานีนครลำปางถึงจังหวัดเชียงใหม่
โดย นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อีกระลอก การรถไฟฯ จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการให้บริการสถานีต้นทางจาก
สถานีเชียงใหม่ เป็นสถานีนครลำปางเป็นการชั่วคราว เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร จำนวน 12 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2567เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ดังนี้
รถด่วนพิเศษ
ขบวนที่ 7/8 กรุงเทพอภิวัฒน์- เชียงใหม่ – กรุงเทพอภิวัฒน์ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์ – ลำปาง – กรุงเทพอภิวัฒน์
ขบวนที่ 9/10 กรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ – กรุงเทพอภิวัฒน์ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์ – ลำปาง – กรุงเทพอภิวัฒน์
ขบวนที่ 13/14 กรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ – กรุงเทพอภิวัฒน์ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์ – ลำปาง – กรุงเทพอภิวัฒน์
รถด่วน
ขบวนที่ 51/52 กรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ – กรุงเทพอภิวัฒน์ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์ –ลำปาง– กรุงเทพอภิวัฒน์
รถเร็ว
ขบวนที่ 109/102 กรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ – กรุงเทพอภิวัฒน์ ปรับเปลี่ยนเป็น กรุงเทพอภิวัฒน์ – ลำปาง – กรุงเทพอภิวัฒน์
รถท้องถิ่น
ขบวนที่ 407/408 นครสวรรค์ - เชียงใหม่ – นครสวรรค์ ปรับเปลี่ยนเป็น นครสวรรค์ – ลำปาง – นครสวรรค์
การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สำหรับผู้โดยสารที่มีตั๋วเดินทางในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ หากไม่ประสงค์เดินทาง สามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง.
นอกจากนี้สำนักงานชลประทานที่ 1 ออกประกาศ ฉบับที่ 21/2567
เรื่อง แจ้งสถานการณ์ระดับน้ำวิกฤติแม่น้ำปิง ที่สถานี P.๑ สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ด้วยในช่วงวันที่ ๑-๔ ตุลาคม ๒๕๖๗ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง
จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ประกอบกับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือ ส่งผลให้พื้นที่ภาคเหนือ
มีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และพื้นที่จังหวัด
เชียงใหม่ ได้รับอิทธิพลจากลักษณะอากาศดังกล่าว ส่งผลให้มีฝนตกกระจายทั่วทั้งจังหวัดในเกณฑ์หนักถึงหนักมาก
ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิ้งและน้ำสาสาขาในพื้นที่ตอนบนมีปริมาณทิ่มสูงขึ้น และส่งผลกระทบให้บริมาณน้ำในน้ำในน้ำปิง
เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ผ่านมา
สถานกรณ์น้ำในแม่น้ำบ้าปิงและลำน้ำหาขาเมื่อวันที่ ๖ ตุสททม ๒๕๖๗ 13ท ๑๘.00,052
- สถานี P.๑ แม่น้ำปิงที่สะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ระดับน้ำ +๕.๐๐ เมตร (สูงกว่า
ระดับตลิ่ง ๑.๓๐ เมตร) และสูงกว่าระดับวิกฤติ (ระดับหลังคันป้องกันน้ำท่วมเมืองของเทศบาลนครเชียงใหม่ที่
รองรับน้ำหลากระดับ +๔.๒๐ เมตร) ประมาณ ๐.๘๐ เมตร มีปริมาณน้ำ ๖๐๔.๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยู่
ในเกณฑ์วิกฤติ แนวโน้มปริมาณน้ำลดลง
- สถานี P.๖๗ แม่น้ำปิงที่บ้านแม่แต อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ระดับน้ำ +๓.๖๐ เมตร (ต่ำ
กว่าระดับตลิ่ง ๐.๒๐ เมตร) ปริมาณน้ำ ๔๙๘.๗๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันยังอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง
แนวโน้มปริมาณน้ำลดลง
- สถานี P.๒๐ (แม่น้ำปิ้ง) อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ระดับน้ำ +๑.๕๕ เมตร (ต่ำกว่าระดับ
ตลิ่ง ๐.๙๕ เมตร) ปริมาณน้ำ ๑๑๑๘.๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มปริมาณน้ำลดลง
- สถานี P.๒๑ (น้ำแม่ริม) ระดับน้ำ +๓.๒๗ เมตร (ต่ำกว่าระดับตลิ่ง ๐.๕๓ เมตร) ปริมาณน้ำ
๔๑.๘๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มปริมาณน้ำทรงตัว
- ฝ่ายแม่แตง (น้ำแม่แตง) อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ปริมาณน้ำผ่านฝ่าย ๑๖๖๕.๐๙๑ ลูกบาศก์
เมตรต่อวินาที โดยมีปริมาณน้ำสูงสุดที่ไหลผ่านฝ่าย ๗๓๒ ๖๕ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๗
เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่ผ่านมา ปัจจุบันระดับน้ำผ่านฝ่ายอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ฝ่ายสินธุกิจปรีชา (ฝ่ายแม่แฝก) แม่น้ำปิงที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ปริมาณน้ำไหลผ่าน
ฝ่าย ๒๐๙:๒๙๙๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มปริมาณน้ำผ่านน้ำฝ่ายลดลง
สถานการณ์น้ำของแม่น้ำปิงและน้ำสาขาในภาพรวมของพื้นที่ตอนบน (น้ำแม่แตง น้ำปิงตันน้ำจาก
อำเภอเชียงดาว และน้ำแม่ริม) มีระดับน้ำลดลงลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ และแม่น้ำปิ้งที่สถานี P.๑ (สะพานนวรัฐ อำเภอ
เมือง จังหวัดเชียงใหม่) ได้ผ่านระดับสูงสุดที่ +๕:.๓๐ เมตร (สูงกว่าระดับตลิ่ง ๑.๖๐ เมตร) และสูงกว่าระดับ
วิกฤติ (ระดับหลังคันป้องกันน้ำท่วมเมืองของเทศบาลนครเชียงใหม่ที่รองรับน้ำหลากระดับ +๔.๒๐ เมตร)
ประมาณ ๑.๑๐ เมตร ปริมาณน้ำสูงสุด ๖๓๖.๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ เวลา
๑๒.๐๐ น. ที่ผ่านมาแล้ว ปัจุบันระดับน้ำที่สถานี P.๑ มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานชลประทานที่ ๑ คาดหมายว่า ระดับน้ำที่สถานี P.๑ (สะพานนวรัฐ) มีแนวโน้มลดลงอย่าง
ต่อเนื่อง โดยจะมีระดับนำอยู่ที่ +๔.๒๐ เมตร (ระดับหลังคันป้องกันนำท่วมเมืองของเทศบาลนครเชียงใหม่) ใน
วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๐.๐๐-๐๒.๐๐ น. และจะจะมีระดับน้ำอยู่ที่ +๓.๗๐ เมตร (ระดับตลิ่งของสถานี
P.e) ในวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๘.๐๐-๑๐.๐๐ น. หากไม่มีฝนตกในพื้นที่และปริมาณน้ำหลากที่เพิ่มขึ้น
จากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำ จากนั้นสภาพการไหลของน้ำในแม่น้ำปังที่ผ่านสถานี P.ด จะลดระดับลงจนอยู่ในสภาพ
การไหลปกติ
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ ๑ จะติดตาม/เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบ
อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ และจากสถานการณ์ปริมาณน้ำหลากสูงสูงสุดที่เกิดขึ้น ได้ส่งผล
กระทบให้บางพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูนเกิดน้ำท่วมชัง สำนักงานชลประทานที่ ๑ จะได้ติดตั้ดตั้ง
เครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัย และจัดส่งครื่องจักรเครื่องมือพร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมบูรณาการ
ให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนต่อไป
ประกาศ ณ วันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ (เวลา ๐๙.๐๐ น.)
(นายอัฏฐวิชย์ นาควัชระ)
ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ ๑