"ชุมชนเกาะทราย" น้ำลด-โคลนเพิ่ม เร่งเสริมบิ๊กแบ็กต่อเนื่อง

4 ตุลาคม 2567 ทีมข่าว "เนชั่นทีวี" ลงพื้นที่ชุมชนเกาะทราย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ภายหลังถูกน้ำท่วมรอบ 2 พบว่า ตลอดช่วงบ่ายวันนี้ (4 ต.ค.67) หลังจากทหารได้นำบิ๊กแบ็กมาวาง ปิดช่องทางที่น้ำจะไหลเข้ามาในพื้นที่ของชุมชนเกาะทรายได้ และเสริมความแข็งแรงของบิ๊กแบ็กอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับระดับน้ำในแม่น้ำสายลดลงไปแล้ว ทำให้พื้นที่ในชุมชนเกาะทราย น้ำลดลงไปจนเกือบแห้งสนิทแล้ว เหลือเพียงที่ต่ำๆ บางช่วงเท่านั้น

แต่หลังน้ำลด พบว่าบนถนนเส้นทางสัญจร มีโคลนหนาเพิ่มขึ้นมาประมาณ 10-20 เซนติเมตร ประกอบกับ โคลนเหล่านี้ก็ไปกองอยู่หน้าบ้านของประชาชนที่น้ำท่วมด้วย ทำให้ชาวเกาะทรายที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในรอบที่ 2 นี้ วันนี้ต้องออกมาตักโคลนออกจากบ้านกันอีก

อย่างบ้านของ คุณสายชล หลังจากทำความสะอาดไปได้แล้ว 2 วัน พอน้ำมาอีก วันนี้คุณสายชลกับลูกๆ ก็เริ่มกลับมาตักโคลนออกจากบ้านอีกรอบ แต่เขาบอกว่า รอบนี้โชคดีหน่อยที่ เป็นโคลนเหลว ดันออกง่าย และยังไม่เข้าไปในตัวบ้านเหมือนครั้งที่ผ่านมา และหลังจากน้ำลด ก็คงต้องค่อยๆ เริ่มทำความสะอาดบ้านอีกครั้ง 

ระดับน้ำแม่สายลดลง ผ่านช่วงวิกฤตแล้ว พ้นคืนนี้เตรียมฟื้นฟูต่อ

ส่วนสถานการณ์น้ำจากแม่น้ำสาย ล้นแนวคันกั้นน้ำ เข้าท่วมรอบ 2 ในพื้นที่ของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย วันนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ทหารช่าง ก็ยังนำถุงบิ๊กแบ็ก เข้ามาเสริมแนวคันกันน้ำ บริเวณหัวสะพานด่านพรมแดน เพื่อให้แข็งแรงมากขึ้น ในการป้องกันน้ำและไม่ให้คันดินกันน้ำนี้พังทลาย

โดย นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่สาย เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ของแม่สาย น่าจะผ่านช่วงพีคไปแล้ว ตอนเช้าที่ประเมินระดับน้ำลดลง ความเร็วของน้ำเบาลง คิดว่าบ่ายนี้น่าจะเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติในหลายจุด ส่วนชุมชนที่น้ำเข้ามาก็อพยพไปแล้วก่อนหน้านี้หมดแล้ว และรอบนี้ คาดว่าน้ำน่าจะมีคืนเดียว ส่วนคืนนี้น่าจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

ทั้งนี้มองว่า ข้อดีของมวลน้ำรอบนี้ คือ เมื่อน้ำมาก็พัดปริมาณดินที่อยู่ตามในถนนไปยังปลายทางของน้ำ คือโซนชุมชนผามควายด้วย ซึ่งก็จะช่วยทำให้ระบายโคลนไปได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจุดที่น่าเป็นห่วงก่อนหน้านี้คือจุดเดิม ทั้งเกาะทราย ไม้ลุงขน ผามควาย ถ้าน้ำลงพื้นที่น้ำในชุมชนก็น่าจะดีขึ้น 

และถ้าน้ำไม่มาอีก เจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มทำงานได้แล้ว ถ้าไม่มีฝนมาเติมก็ทำต่อได้ อาจจะไม่ใช่นับ 1 แต่เป็นการนับ 2 นับ 3 โดยภายใน 31 ต.ค.67 นี้ ต้องเอาประชาชนกลับเข้าบ้านเรือนของตัวเองให้ได้ก่อน หลังจากนั้นทางเทศบาลเองก็ต้องฟื้นฟูระบบระบายน้ำใหม่ทั้งระบบ

ส่วนการประเมินสถานการณ์น้ำ เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า ทางต้นน้ำสายน้ำฝนลดลง จากเตือนสีแดง เป็นสีเขียวแล้วจึงคาดว่าก็ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว หลังจากนี้ ในจุดบ้านประชาชน ประมาณ 20 กว่าจุดที่กังวลว่า มวลน้ำจะทะลักเข้ามาเมื่อน้ำลด จะนำกระสอบทรายไปเสริมเพื่ออุด 20 กว่าจุดนี้ให้ได้