วันที่ 4 ตุลาคม 2567 พ.ต.อ.จิรุฏฐ์ พิมพา ผกก.สภ.วังยาง จ.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.ท.ยงยุทธ ผิวพรรณ์ รอง ผกก.สอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้กำลังใจญาติ และร่วมไว้อาลัยศพ นางเกียน ลี้พล อายุ 68 ปี กลุ่มเปราะบาง ชาวบ้านนาขาม ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่คนเดียวลำพัง และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยเสียชีวิต จากปมพนักงานไฟฟ้าของบริษัทเอกชน รับหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.วังยาง จ.นครพนม (กฟภ.อ.วังยาง) ไปตัดกระแสไฟบ้านของนางเกียน ทั้งที่ผู้ป่วยต้องใช้เครื่องผลิตอ็อกซิเจน และเตียงลม ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้มีไฟฟ้าดับประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ จนกระทั่งนางเกียนอาการทรุดต่อเนื่อง และเสียชีวิตในคืนวันเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะออกมายืนยันว่า การเสียชีวิตนางเกียน ไม่เข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเยียวยา เนื่องจากไม่ได้เสียชีวิตทันที แต่ญาติยังค้างคาใจ และเชื่อว่าการตัดกระแสไฟฟ้าเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิต โดยทางตำรวจพร้อมให้การช่วยเหลือรับเป็นคดีอาญา หากญาติมีความประสงค์จะต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่ต้องทำตามขั้นตอน และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินคดีคือ จะต้องมีการส่งศพผู้ตายไปชันสูตร ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต เพื่อประกอบการดำเนินคดี ทั้งอาญาและแพ่ง พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนการประกอบพิธีฌาปนกิจศพคุณยายเกียน จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้
สอบถาม นางสาวหมิ๋ว อายุ 44 ปี หลานสาวผู้ตาย ยอมรับว่า ยังคาใจกับการเสียชีวิตของคุณยาย อดคิดไม่ได้ว่าการตัดไฟฟ้าเป็นต้นเหตุให้ยายเกียน เสียชีวิต เพราะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน และติดใจพนักงานตัดไฟมากที่สุด ทั้งที่มีญาติบอกแล้วว่า มีคนป่วยติดเตียงนอนอยู่ในบ้าน แต่ได้คำตอบกลับว่าทำตามหน้าที่ แต่หลังจากเกิดเรื่อง พนักงานคนเดิมกลับอ้างไม่รู้ว่ามีคนป่วยติดเตียง และการแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ บางครั้งหากจำเป็นเร่งด่วน คงไม่ต้องรอเป็นเอกสารเกี่ยวกับฐานข้อมูลคนป่วย หรือไปยื่นข้อมูลลงระบบ อ้างข้าง ๆ คู ๆ ว่า ทำตามหน้าที่ สุดท้ายพอเกิดปัญหาก็บอกไม่มีฐานข้อมูล
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย หรือเงินชดเชยเยียวยา ขออโหสิกรรมให้แก่คนทั้งการไฟฟ้า และไม่อยากส่งร่างยายไปชันสูตร ขอให้เป็นบทเรียนกับหน่วยงานการไฟฟ้า มั่นใจว่าการตายของยายเกียน จะเกิดประโยชน์กับสังคม ส่วนการดูแลขึ้นอยู่กับการแสดงออกถึงจิตสามัญสำนึก ความรับผิดชอบขององค์กร ถ้าไม่เป็นญาติตนเองก็ไม่รับรู้ถึงความสูญเสีย