วันที่ 4 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 3 ต.ค.2567) เวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ธนพัฒน์ รุ่งเรืองสาคร สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ที่จอดอยู่ภายในซอยระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาภูเก็ต ถ.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ไม่มีผู้ใดติดอยู่ในตัวรถ หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อเข้าฉีดน้ำดับเพลิง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนภูเก็ต อย่างหนักและรวดเร็ว นอกจากนี้ ไฟยังได้ลุกลามไปติดรถเอสยูวี ยี่ห้อซูบารุสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ภูเก็ต ที่จอดอยู่ติดกันด้วย
ขณะที่ ประชาชนบริเวณใกล้เคียงต่างวิ่งหนี พร้อมนำรถของตัวเองที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงออกจากจุดที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านบางส่วนนำถังดับเพลิงมาช่วยกันดับไฟ แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเพลิงมีการลุกไหม้อย่างแรง ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฯ จึงได้เร่งระดมฉีดน้ำ เพื่อระงับเพลิง และเพื่อป้องกันไม่ให้มีการลุกลามเพิ่มเติม โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
เบื้องต้น รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ถูกเพลิงเผาวอดเสียหายทั้งคัน ส่วนรถเอสยูวี "ซูบารุ" ถูกเพลิงเผาไหม้ด้านข้างพังเสียหาย หลังจากนี้ จะมีการประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ รวมทั้งสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชื่อเจ้าของรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ต้นเพลิง คือ นายสุภชัย แซ่หลิม อายุ 50 ปี โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับรถ พร้อมลูกชาย และหลานชาย เพื่อมาดูขบวนแห่พระรอบเมืองของ "ศาลเจ้าบางเหนียว" ที่จัดเฉลิมฉลองในโอกาสครบ 120 ปี โดยได้นำรถมาจอดไว้ภายในซอยข้างถนนดังกล่าว และเมื่อดูขบวนแห่พระเสร็จได้เดินกลับมาที่รถเพื่อกลับบ้าน ในระหว่างขึ้นนั่งรถได้คุยโทรศัพท์ไปด้วย และได้ยินเสียงดังแป็กๆ แต่ยังไม่เห็นเปลวไฟ กระทั่งหันไปหาลูกกับหลานซึ่งนั่งอยู่เบาะตอนหลังของรถ จึงเห็นประกายไฟที่ด้านหลังรถ จึงได้เปิดประตูให้ลูกกับหลานทั้งสองคนรีบออกมาจากรถ ก่อนจะมีเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทุกคนปลอดภัย ส่วนไฟที่ลุกไหม้ขึ้นนั้น คิดว่าเกิดความร้อนในตัวรถ เพราะตอนที่ขึ้นมาบนรถใหม่ๆ พบว่าร้อนอบอ้าวมาก จึงเป็นไปได้ว่าความร้อนภายในรถทำให้ประทัดชนิดกระเทียม และไข่มังกรเกิดปะทุ ก่อนที่จะมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้น ประกอบกับบริเวณที่ถุงใส่ประทัดวางอยู่มีผ้าไหม เสื่อ และอุปกรณ์ในการแขวนเสื้อผ้าวางปนอยู่ด้วย เนื่องจากตนพึ่งกลับมาจากงานแสดงสินค้าที่กรุงเทพฯ ยังไม่ได้เก็บของลง จึงถือเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อเข้าทำการตรวจสอบอย่างละเอียดและเก็บหลักฐานต่างๆ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป เบื้องต้นทราบว่า รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวมีประกันภัยชั้น 1 ส่วนของรถอีกคันอยู่ระหว่างการประสานกับผู้เป็นเจ้าของ เพื่อร่วมตรวจสอบความเสียหายด้วย