วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ( 2 ต.ค.67) เวลา 18.00 น. ตำรวจ สภ.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นสำนักงานขาย พบผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อคือนายสุพจน์ ปัญญาเทพ อายุ 56 ปี เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรร และเป็นอดีตประธาน กต.ตร.สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี มีรอยกระสุนปืนบริเวณขมับด้านซ้าย นั่งเสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้ภายในสำนักงาน ใส่เสื้อยืดโปโลแขนสั้น สวมกางเกงยีนส์ขายาว พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ใต้เก้าอี้ บริเวณพื้นพบกองเลือดจำนวนมาก ห่างไปเล็กน้อยพบศพหญิงนอนตะแคงเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้น สวมชุดเดรสสีชมพูมีลาย ทราบชื่อคือนางกนกวรรณ แจ่มทรัพย์ไพศาล อายุ 54 ปี หุ้นส่วนของโครงการหมู่บ้านจัดสรร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณศีรษะ
พนักงานขายหมู่บ้านจัดสาร เล่าว่า ขณะที่ น.ส.กนกวรรณ นั่งอยู่โต๊ะทำงานด้านใน ส่วนตนพนักงานขายนั่งอยู่โต๊ะด้านหน้า เวลาประมาณ 17.00 น.นายสุพจน์ ได้เดินเข้ามาในสำนักงานขายบอกว่าจะคุยธุระกับ น.ส.กนกวรรรณ ให้ออกไปก่อน ตนจึงออกมานั่งข้างนอกกับแม่บ้าน จากนั้นสักพักได้ยินเสียงดังปัง 2 ครั้ง นึกว่าเขายิงไล่นกพิราบ
จนกระทั่งเวลา 18.00 น. ตนจะกลับบ้าน แต่เขายังไม่ออกมาไฟก็ยังเปิดอยู่ จึงคิดว่าเขาน่าจะคุยกันอยู่ จึงเดินไปบอกเขาว่า "พี่หนูกลับแล้วนะๆ" แต่เขาก็เงียบจึงเปิดประตูเข้าไปได้กลิ่นควัน จึงตะโกนเรียกพี่ และมองไปที่พื้นมีผ้าขี้ริ้วอยู่เห็นปลอกกระสุนตกอยู่ จึงคิดว่าน่าจะมีเหตุแล้ว ก่อนวิ่งออกมาเรียก รปภ.ให้เข้าไปดู ส่วนตนไม่ได้เข้าไปดู เพราะไม่กล้าดู จากนั้นจึงได้โทรเรียกกู้ภัย "เขาทะเลาะอะไรกันไม่รู้เขาเป็นหุ้นส่วนกัน และไม่เคยรู้ว่าเขามีปืนพก"
นายสุทัศน์ นิยมราษฏร์ อายุ 58 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.)หมู่บ้าน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปเปิดไฟด้านในหมู่บ้าน จึงไม่ทราบ เมื่อออกมาเจ้าหน้าที่สำนักงานขายเขาเรียกตนเข้าไป ก็เห็นเจ้านายนอนแหงนอยู่บนเก้าอี้มีเลือดออก ก็ไม่รู้ว่าเสียชีวิตหรือยัง ส่วนเจ้านายผู้หญิงอีกคนก็นอนอยู่บนพื้นตรงหลังโต๊ะ ซึ่งขณะที่ตนเข้าไปในสำนักงานเวลาประมาณ 18.00 น.เข้าไปก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เมื่อเปิดไฟเสร็จออกมาเห็นรถเจ้านายเปิดไฟอยู่ ก็คิดว่าเจ้านายจะกลับบ้าน แล้วตนกำลังจะเดินไปเปิดไฟตรงนั้นพอดี แต่สำนักงานขายเขาเรียกตนให้เขาไปดูในสำนักงานหน่อย ก็เห็นนอนนิ่งอยู่มีเลือดเต็มเลย ตนจึงให้เขาแจ้งรถกู้ภัย
ด้าน นางวรรรณา อายุ 52 ปี ฝ่ายจัดซื้อของหมู่บ้าน กล่าวว่า ผู้ชายเขามีปัญหาเรื่องเงิน ไม่ได้โอนจ่ายค่างานหลายเดือนแล้ว ส่วนเขาทะเลาะกันหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้อยู่ในนั้นด้วย ตนอยู่อีกห้องหนึ่ง เขาก็เคยบ่นว่าเครียด แต่ก็มีบ้างเขาทะเลาะกันเรื่องงาน ตนรู้เพียงแต่ว่าผู้หญิงเขามาช่วยเรื่องบัญชี
ขณะที่ น.ส.กัญญาพัชร แจ่มทรัพย์ไพศาล อายุ 18 ปี หลานของ น.ส.กนกวรรณ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนอยู่บ้านตรงข้ามกับ น.ส.กนกวรรณ ซึ่งเป็นป้า แต่ป้าจะมากินข้าวที่บ้านตนตลอดทุกวันตอนเย็น วันนี้ตอนเย็นไม่มาจึงโทรหาแฟนของป้า แฟนเขาจึงบอกว่าป้าถูกยิงเสียชีวิต น่าจะมีปัญหาเรื่องเงินกับคนยิง เงินเดือนก็ไม่จ่าย แล้วติดหนี้ป้าเป็นแสน เงินเดือนก็ไม่ค่อยจ่าย ไปเบิกได้แต่ได้ที ครั้งละ 1,000-2,000 บาท คนยิงเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้าน แล้วเขายืมเงินป้าตน ป้ากับคนยิงเคยทะเลาะกันมาแล้วรอบหนึ่งเรื่องเงิน ป้าบอกให้เอาเงินคืนมาเอาหนี้ที่ติดคืนมา เขาก็เงียบเพราะเขาไม่มีเงินคืนสักบาท
สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการทวงเงิน เพราะป้าบ่นตลอดว่าเงินไม่ได้เลย เงินเดือนก็ไม่ได้เลย ซึ่งป้าตนทำงานอยู่ที่นั่นด้วย โดยเงินที่เขายืมไปมีทั้งเป็นเงินของแฟนป้า และเงินป้า ก่อนหน้านี้เขาก็ทะเลาะกันบ้า งแต่ไม่เคยลงมือทำร้ายร่างกายกัน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่า นายสุพจน์ มีอาการเครียดเรื่องเงินที่ค้างจ่ายค่างานไว้หลายเดือน จึงมาคุยกับ น.ส.กนกวรรณ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.กนกวรรณ เสียชีวิตแล้วยิ่งตัวเองตายตาม จึงมอบศพให้อาสากู้ภัยนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรพลิกศพต่อไป