26 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบินสำรวจ สถานการณ์น้ำท่วมในเชียงใหม่ ปัจจุบันยังพบว่าหลายพื้นที่ยังถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง ซึ่งสถานการณ์ ถือว่าเข้าสู่จุดวิกฤติต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 2 แล้ว หลังจากที่เริ่มเอ้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่ลุ่มต่ำมาตั้งแต่คืนวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา
และเมื่อคืนนี้ถือว่าระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มระดับขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการเท่าที่มีการวัดเก็บสถิติมา โดยที่จุดวัดน้ำ P1 สะพานนวรัฐกลางเมืองเชียงใหม่ เวลา 02.00 น.ไต่ระดับขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่ 4.93 เมตร แซงน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ที่สูงสุดที่ 4.90 เมตร หลังจากนั้นแม่น้ำปิงเริ่มทรงตัว และลดระดับลงอย่างช้าๆ เฉลี่ยน 1-2 เซนติเมตรต่อชั่วโมง จนล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. ลงมาอยู่ที่ 4.63 เมตร ลดลงจากชั่วโมงก่อน 3 เซนติเมตร และมีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะระดับน้ำทางตอนบนก็ลดลงแล้วประกอบกับฝนทางตอนบนก็เริ่มเบาบางลง
อย่างไรก็ตาม น้ำปิงที่เริ่มทรงตัว และลดระดับลง ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์น้ำที่เอ่อล้นตลิ่งท่วมลดลง กลับทำให้ขยายวงกว้างออกไป ซึ่งเป็นเช่นนี้ทุกครั้งตอนน้ำขึ้น จะขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ตอนลดจะลดลงอย่างช้าๆ ต้องรอให้แม่น้ำปิงลดระดับลงมากกว่านี้ มวลน้ำถึงจะสามารถย้อนกลับไปได้
มวลน้ำหลากท่วมพื้นที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ขยายวงกว้างมากขึ้น ทั้งถนนเจริญเมือง ย่านเศรษฐกิจ ที่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้าอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ต่างปิดให้บริการเพราะถนนถูกน้ำท่วมสูง เช่นเดียวกับถนนเจริญราษฎร์ ที่เป็นถนนเลียบแม่น้ำปิงถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ส่วนถนนเชียงใหม่-ลำพูนตั้งแต่แยกตลาดหนองหอย ผ่านสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคบ้านเด่น ยาวไปจนถึงเชิงสะพานนวรัฐ น้ำท่วมในระดับสูง 50-100 เซนติเมตร
กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 ได้จัดส่งกำลังพลพร้อมรถบรรทุกทหารขนาดใหญ่ ขับตระเวนอำนวยความสะดวก รับ-ส่ง ประชาชน ที่ต้องสัญจรไปมา รวมถึงขนย้ายสิ่งของออกจากบ้าน ส่วนที่ถนนช้างคลานตลอดทั้งสาย ตั้งแต่ย่านการค้าไนท์บาซาร์ ไปจนถึงทางลอดไต้สะพานป่าแดด ถนนเจริญประเทศช่วงลุ่มต่ำตั้งแต่เชิงสะพานเม็งรายมาจนถึงขั่วเหล็ก ซึ่งขณะนี้มวลน้ำขยายวงกว้าง หลากท่วมบ้านประชาชนและพื้นที่เศรษฐกิจครบทั้ง 7 โซน ที่ล้วนเคยถูกน้ำท่วมเมื่อปี 2554 และ 2565 คาดว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ครอบครัว
ด้านเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ขณะนี้มีปริมาณเกินความจุอ่าง อยู่ที่ร้อยละ 112.64 จำนวน 294 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีมวลน้ำล้นอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน หรือ Emergency Spillway ไปแล้ว 23 เซนติเมตร โดยมีประชาชนที่ออยู่ในพื้นที่ท้ายน้ำใน 3 ตำบล คือ ตำบลอินทขิล ตำบลช่อแล และตำบลบ้านเป้า อำเภอแม่แตง ได้รับผลกระทบแล้ว
นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ประเมินว่าเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลจะยังหน่วงน้ำไว้ ไม่ระบายน้ำออกไป แต่มวลน้ำที่ล้นอาคารระบายน้ำล้นฉุกเฉิน จะส่งผลให้น้ำในแม่น้ำปิงสูงขึ้นได้อีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเทียบกับมวลน้ำที่ไหลมาจากทางตอนบน
ชมคลิป