27 สิงหาคม 2567 ความคืบหน้าเหตุดินถล่มในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิต ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของไซต์งาน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในอุโมงค์ จำนวน 3 คน ติดอยู่ภายใน เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่สามารถนำตัวผู้ประสบเหตุออกมาได้
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 13.53 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายอำเภอ และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เจ้าของโครงการ วิศวกรผู้ควบคุมโครงการ
เมื่อมาถึงได้มีการพูดคุยประชุมงานกับทางเจ้าของโครงการ รวมถึงวิศวกรควบคุมโครงการ เพื่อสรุปเหตุการณ์ และการปฏิบัติการช่วยเหลือ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา รวมถึงการปฏิบัติการช่วงเช้านี้ ก่อนจะเดินทางเข้าไปตรวจการปฎิบัติการภายในอุโมงค์ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
โดย นายอนุทิน นั่งรถเจ้าหน้าที่ออกมา ก่อนจะมาประชุมอีกรอบเรื่องแผนการดำเนินการหลังจากนี้ เนื่องจากมีข้อเป็นห่วงเรื่องของการช่วยเหลือผู้สูญหายทั้ง 3 ราย
นายอนุทิน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่าบริเวณจุดที่ถล่มลงมายังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากการช่วยเหลือด้วยวิธีการสอดท่อ เมื่อดันท่อเข้าไป หิน และดิน ที่ถล่มลงมาก็จะดันเข้ามาภายในท่อ ทำให้ต้องเปลี่ยนการปฏิบัติงาน เป็นสร้างกล่องค้ำยัน เพื่อป้องกันดินและหินที่ไหลลงมาเพิ่มเติม เมื่อทำกล่องค้ำยันเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะค่อยๆขุดเข้าไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ยังไม่ยืนยันว่า ก่อน 4 โมงจะได้ผู้สูญหายออกมาจากจุดที่ดินถล่ม แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องของความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทั้งสองฝ่ายมีการเคลียร์แบ่งพื้นที่การปฏิบัติงานแล้ว รวมถึงหน่วยงานภาครัฐก็มีความชัดเจน ทั้งนี้การตัดสินใจสูงสุดให้อยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในการตัดสินใจ
กางแผนช่วย 3 ชีวิต-เล็งใช้เหล็ก I-Beam สร้างอุโมงค์ ขุดดินออก
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมประชุมกับ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง นายเกริกเสกสรรค์ วาตะศิริ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษค้นหาและกู้ภัย นายพลพัฒ กรรณสูต กรรมการบริหาร บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อหาแนวทางในการนำตัวผู้ประสบภัยรายแรกออกมาจากในอุโมงค์
นายอนุทิน เปิดเผยว่า ตอนนี้สิ่งที่เป็นความหวังและเป็นเรื่องที่ได้ยินดี คือ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ทางทีมกู้ภัยที่เข้าไปตรวจสอบสัญญาณชีพ ได้พบสัญญาณชีพของทั้ง 3 คนอยู่ ซึ่งก็สันนิษฐานได้ว่าทั้ง 3 คนอาจจะยังมีชีวิตและอยู่ในยานพาหนะ ซึ่งคันหนึ่งเป็นแบคโฮและอีกคันเป็นรถดั้ม คาดว่าผู้ประสบภัยน่าจะอยู่ในรถแบคโฮ 2 คนและในรถดั้ม 1 คน เพราะจากเครื่องสแกนหาสัญญาณชีพนั้นพบว่ามี 2 คนที่อยู่ใกล้กันและอีกคนหนึ่งห่างออกไป ประมาณ 5 เมตร ซึ่งตอนนี้ต้องทำทุกวิถีทางในการนำตัวทั้งหมดออกมาให้ได้ โดยเราต้องใช้ทั้งทางหลักทางวิศวกรรมศาสตร์ และหลักทางกู้ภัยด้วย
"เราจะใช้วิธีนำเหล็กI-beam เข้าไปสร้างอุโมงค์ จากนั้นจะทำการขุดดินออกมา เมื่อถึงตัวรถแล้ว ก็ต้องใช้วิธีทางการกู้ภัยเข้ามาช่วย เพื่อที่จะเอาตัวผู้ประสบภัยออกมา ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลา ในการสร้างอุโมงค์หลายชั่วโมง แต่ก็ไม่อยากให้กำหนดระยะเวลา เพราะจะเป็นการกดดันผู้ปฏิบัติงาน" นายอนุทิน ระบุ
นายอนุทิน บอกด้วยว่า เรามีความพร้อมในเรื่องของการสนับสนุนทุกด้าน ซึ่งภายหลังจากที่ผู้ประสบภัยออกมาที่บริเวณด้านนอก ก็จะมีการปฐมพยาบาลและนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลปากช่องนานา ทั้งนี้ เส้นทางในการลำเลียงผู้ประสบภัย หากเป็นช่วงเวลากลางคืน จะใช้วิธีการลำเลียงด้วยรถเลื่อน ซึ่งจะวิ่งบนรางรถไฟเพื่อไปส่งผู้ประสบภัยให้ได้เร็วที่สุด เนื่องจากถนนที่เข้ามาถึงไซต์งานนั้นค่อนข้างมีความขรุขระ และใช้เวลาลำเลียง แต่หากเราพบผู้ประสบภัยในช่วงเช้าหรือเช้ามืดเราจะใช้วิธีการยกขึ้นคอเพื่อไปโรงพยาบาล
ส่วนเรื่องการทำอุโมงค์จากเหล็ก I-Beam นั้น เชื่อว่าน่าจะมีความคงทนและปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงาน แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเข้าไปทีมกู้ภัยจะต้องเป็นผู้ประเมินหน้างาน ว่าสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่เช่นเดียวกัน
ขณะนี้ได้มีการสั่งการ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์แล้ว ซึ่งต้องบอกว่าการควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ในมือของรัฐ ได้รับการสนับสนุนจากท่านประธานบริษัท เจ้าของโครงการ อย่างเต็มที่
"วันนี้ที่ตนมาก็เพื่อทำให้ทุกอย่างมีเป้าหมายเดียวกันไม่ต้องมาแบ่งว่าเป็นพื้นที่ของรัฐหรือเอกชน เพื่อให้การดำเนินงานไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะว่าไม่อยากให้ผู้ประสบภัยติดค้างในนั้นมากกว่า 72 ชั่วโมงซึ่งขณะนี้ผ่านไป 60 กว่าชั่วโมงแล้ว ซึ่งความยากลำบากอาจจะอยู่ที่คนสุดท้ายที่อยู่ลึกเข้าไปเป็นระยะทางประมาณ 14 เมตร อาจจะต้องมีการดันเหล็กเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง" นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นายพลพัฒ กรรณสูต กรรมการบริหาร บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกเสียใจมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เกิด เนื่องจากมันเป็นภัยธรรมชาติ และตอนนี้เราก็ใช้กำลังและเวลาทุกอย่างทุ่มเทให้กับการช่วยเหลือ พนักงานให้รอดชีวิตออกมาให้เร็วที่สุด โดยเราได้มีการประสานงานกับกู้ภัยจีนด้วยซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องกู้ภัยทางอุโมงค์ ถือว่าเป็นระดับชั้นนำของโลก โดยปกติแล้วทางบริษัทจะมีการซ้อมอพยพผู้คนหากเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันอยู่แล้ว
นอกจากนี้ อุโมงค์ส่วนนี้จริงๆ แล้วมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ตอนนี้เราทำไปได้แล้ว 7 กิโลเมตร เหลืออีกเพียงแค่ 1 กิโลเมตร ซึ่งในจุดดังกล่าวนั้นเราสามารถเจาะอุโมงค์ทะลุเชื่อมกันแล้ว แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์เสียก่อนที่จะทำเสร็จ ทั้งนี้ เราให้การยืนยันว่าเราให้ความร่วมมือกับปฏิบัติการกู้ภัยในครั้งนี้อย่างเต็มที่ แล้วต้องขอโทษทุกคนด้วย
ส่วนเรื่องทำอุโมงค์ที่มีขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 6 เมตรนั้น จะใช้เหล็ก I-Beam สอดเข้าไปในดินและเชื่อมติดกันทำเป็นอุโมงค์ ซึ่งการทำให้ลักษณะนี้คล้ายๆ กับการทำเหมืองโดยปกติ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งสาเหตุที่ต้องทำให้อุโมงค์ ดังกล่าวนั้นมีความกว้างประมาณ 3 เมตรเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำแบคโฮเล็กเข้าไปในการตักดินออกมา ตอนนี้ต้องบอกว่ามีความเป็นห่วงพนักงานด้านในอย่างมาก ขอให้เขากดอดทนอีกหน่อยก็จะได้ออกมาแล้ว
ขณะที่ นายกัมปนาท มณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า แม้ว่าการสอดเหล็กบีมเข้าไปด้านในเพื่อทำอุโมงค์นั้น อาจจะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร แต่มีความปลอดภัย สำหรับผู้ที่ปฏิบัติงาน ซึ่งภายหลังจากที่มีการสอดเหล็กบีมและทำโครงอุโมงค์ให้แข็งแรงแล้วจะพยายามเร่งให้สามารถขุดดินออกมาได้ภายในคืนนี้ ซึ่งความคืบหน้าของการทำผนังนั้นตอนนี้สามารถทำด้านบนได้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วและกำลังลงมือประกอบผนังทางด้านซ้าย
ต่อมาเวลา 19.00 น. กู้ภัยสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง ได้นำอุปกรณ์กู้ภัย เข้ามาช่วยเสริมในการปฏิบัติการช่วยผู้ประสบภัยทั้ง 3 ราย โดยอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่นำมา คืออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการค้ำยัน เบาะลม ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้ 40-50 ตัน
นอกจากนี้ยังมีเครื่อง SCBA หรือ เครื่องช่วยหายใจในที่อับอากาศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าไปช่วยผู้ประสบภัยด้านใน
ต่อมาเวลา 19.30 น. กู้ภัยสว่างวิชาฯ ปากช่อง ได้มีการยกอุปกรณ์ที่ใช้ในการกู้ชีพทั้งหมด ที่ได้มีการ เตรียมไว้ขึ้นบนรถ เพื่อที่จะเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดเข้าไปด้านในอุโมงค์ เพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอีกครั้ง
ต่อมาเวลา 20.00 น. นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง และ นายธนนท์ ดอกลัดดา ผู้จัดการ โครงการฯ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) พร้อมคณะแพทย์ที่รอเตรียมพร้อม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมกันอีกครั้ง ภายหลังจากที่ ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ หรือ USAR Thailand ได้เดินทางออกมาจากภายในอุโมงค์ดังกล่าว โดยใช้เวลาในการในการประชุม 1 ชั่วโมง ภายหลังการประชุม เจ้าหน้ากู้ภัยบางส่วนได้แยกย้ายกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ
โดยหนึ่งในทีมงานได้ออกมาเปิดเผยว่า สถานการณ์ภายในอุโมงค์ขณะนี้ ได้มีการขุดดินจนใกล้จะถึงกับรถดั๊มแล้ว มีระยะห่าง ประมาณ 1 เมตร ทำให้ต้องมีการประชุมกันอีกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการนำตัวผู้ประสบภัยที่อยู่ด้านในออกมา
ต่อมาเวลา 20.50 น. ได้มีรถน้ำเดินทางเข้ามาในพื้นที่ พร้อมกับพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย ขณะเดียวกันก็มีรถกู้ชีพ ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่เพื่อสแตนบายจำนวน 2 คัน