ตั้งค่าหัว 1 แสนบาท ล่ามือสังหารตำรวจเชียงใหม่

เมื่อวันที่ 12 กรกฏาคม 2567 จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหวาย วางแผนจับกุม นายจาย จะก่า ผู้ต้องหาคดียยาเสพติด ตามหมายจับของศาลแขวงเชียงดาว จากนั้นได้มีการปิดล้อมบ้านผู้ค้ายา เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทัน และวิ่งหลบหนีออกทางหลังบ้าน ไปพบกับตำรวจชุดปิดล้อมอีกชุดหนึ่ง ผู้ต้องหาจึงใช้ปืนลูกซองยาว ยิงตำรวจชุดปิดล้อม เสียชีวิต 1ราย บาดเจ็บ 1ราย 

โดยตลอดทั้งวันนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ระดมกำลังมาตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่ ศาลาเอนกประสงค์บ้านเจียจันทร์ หมู่ 13 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นมีการประชุมวางแผน เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่

ที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นตรอกเล็กๆ พื้นดินแดง มีความกว้างประมาณ 1 เมตร และเป็นทางยาวไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุที่อยู่ตีนดอย ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่พบร่าง ส.ต.ท.ศรัญยู สิงห์คำ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.นาหวาย ถูกยิงเสียชีวิต และ ร.ต.อ.จีระพล วังแสง รองสารวัตรสืบสวน สภ.นาหวาย ถูกยิงบริเวณนิ้ว 

ต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. ลงพื้นติดตามความคืบหน้าในคดีนี้ โดย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า  เจ้าหน้าที่ได้ติดตามความคืบหน้า และใช้เครื่องมือพิเศษตรวจสอบบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ทราบว่าจุดสุดท้ายที่ได้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหานั้น อยู่ที่หมู่บ้านอรุโณทัย อำเภอเชียงดาว ขณะนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 100 กว่านาย อยู่ที่หมู่บ้าน ซึ่งเป็นแนวชายแดนเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน

โดย ตำรวจกำลังค้นหาตัวผู้ต้องหาอยู่ ซึ่งจากการค้นหาโดยการใช้เครื่องมือพิเศษ เราประเมินว่าตัวผู้ต้องหายังอยู่แถวๆโซนหมู่บ้านอรุโณทัย ซึ่งเป็นพื้นที่ไร่ข้าวโพด และเป็นพื้นที่ป่า กำลังเจ้าหน้าที่ที่เราวางไว้ ทั้งกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ 

อย่างไรก็ตาม ตำรวจกำลังพยายามอย่างเต็มที่ โดยการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบทราบมาแล้วว่าผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับในคดียาเสพติด และจากข้อมูลที่เราติดตามทราบว่า หลบหนีเข้ามาอยู่บ้านพักกับภรรยา ตำรวจจึงได้วางแผนและวางกำลังเฝ้าติดตาม 

และจากที่เกิดเหตุ เราเห็นมีการวางกำลังตำรวจไว้ด้านข้างและด้านหลัง แต่ผู้ต้องหานั้นมียาเสพติดไว้ในครอบครอง ก็กระโดดออกที่กำแพงหลังบ้านและยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจทันที นอกจากนี้ ยังพบว่าที่ฝ่ามือของผู้เสียชีวิต มีรอยกระสุนเข้า ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นก็มีการยิงโต้ตอบกัน และผู้ต้องหาก็หลบหนีเข้าไปในแนวชายป่า ซึ่งข้างหลังนั้นเป็นภูเขา 

ส่วนประเด็นเรื่องความช่วยเหลือ เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ไม่ทอดทิ้งแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน เรามีเรื่องของความดี ความชอบ และจะดูแลทายาทของผู้เสียชีวิต ทั้งด้านสวัสดิการ และเงินที่จะได้รับอย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี  รวมถึงการดูแลผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด

สำหรับการติดตามตัวผู้ต้องหายังถือว่าเป็นบุคคลอันตราย เพราะยังมีอาวุธปืนติดตัวอยู่ ซึ่งสามารถต่อสู้และทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ โดยตำรวจได้มีการประชาสัมพันธ์ให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน และบริเวณใกล้เคียง รวมถึงการให้ข้อมูลกับตำรวจ ตลอดจนการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งทหารไทยก็ประสานงานกันอยู่แล้ว 

นอกจากนี้ ทางตำรวจได้ตั้งค่าหัว หรือรางวัลนำจับตัว  ผู้ต้องหา ที่ทำร้ายและฆ่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยได้ตั้งค่าหัวไว้ 100,000 บาท หากประชาชน หรือว่าใครมีข้อมูล เบาะแสผู้ต้องหา ทางตำรวจก็จะปกปิดข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งการกระทำนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสังคม จะต้องตามจับกุมตัวได้เร็วที่สุด