จากกรณี เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 01.00 น.เจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์แจ้งว่า มีความผิดปกติที่ตู้เอทีเอ็ม ที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอยว้อคกิ้งสตรีท พัทยาใต้ จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ตรวจสอบกล้อวงจรปิดพบว่า พบคนร้ายท้ังคู่นำอุปกรณ์เครื่องสกิมเมอร์ (คัดลอกข้อมูลบัตรอิเล๊กทรอนิกซ์) ไปติดไว้ที่ตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ตั้งอยู่บริเวณปากซอย ว้อคกิ้งสตรีท พัทยาใต้ ดังกล่าวจริง จึงแจ้งทางธนาคารทราบ และแจ้งปิดบริการที่ตู้เอทีเอ็มตู้ดังกล่าว ต่อมาตำรวจจึงสืบสวน จนพบว่าคนร้ายที่นำเครื่องสกิมเมอร์มาติดตั้งไว้นั้น พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนภาค 2 จึงสั่งการให้ ตำรวจสืบภาค 2 และชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ จ.ชลบุรี ดำเนินการสืบสวนและจับกุมคนร้ายให้ได้
ชลบุรี เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 28 กันยายน 2566 ตำรวจสืบภาค 2 และชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ จ.ชลบุรี เข้าตรวจค้นห้องพัก ในโรงแรม ไมลีน ฮอลิเดย์ พื้นที่ สภ.บางละมุง ก่อนจับกุม นาย เซียง คียู (zhang qiyu) สัญชาติ จีน และนายชีอู ยุง-เช็ง (chiu yung-sheng) สัญชาติ ไต้หวัน พร้อมของกลาง 1.อุปกรณ์อิเลกทรอนิกซ์ (สกิมเมอร์)สำหรับติดที่ตู้ เอทีเอ็ม เพื่อดูดข้อมูลบัตรของผู้เสียหาย 5 ชุด 2.อุปกรณ์ บันทึกข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกซ์ 1 เครื่อง 3.คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง 4.บัตรเครดิตปลอม 6 ใบ (ข้อมูลภายในไม่ตรงกับข้อมูลของบัตร) 5.แผ่นจำลองหมายเลข เอทีเอ็ม 2 แผ่น
พล.ต.ท.อิทธิพล เผยว่า แก๊งสกิมเมอร์ได้หายจากประเทศไทยไปเกือบ 10 ปีแล้ว การจับกุมครั้งนี้ จึงถือเป็นการจับกุมที่แสดงให้เห็นว่า การกระทำความผิดในลักษณะนี้ ยังไม่ได้หมดไป สามารถสร้างความเสียหายให้กับระบบธนาคารและผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อคนร้ายได้ติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์และดูดข้อมูลได้แล้ว จะทำการคัดลอกข้อมูลของผู้เสียหายลงใส่บัตรอิเลกทรอนิกซ์ที่มีแถบแม่เหล็กอยู่ด้านหลัง และสามารถนำไปใช้รูดจ่ายค่าสินค้า กดเงินสดได้ทันที สืบสวนภาค 2 จึงขอประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนเฝ้าระมัดระวังสังเกตุ ในการใช้บริการที่ตู้เอทีเอ็ม ถ้าพบลักษณะช่องเสียบบัตร ที่ผิดปกติ เช่น ไฟไม่ติดไม่กระพริบ ช่องฝืดเสียบบัตรยาก อาจมีความผิดปกติที่ตู้ดังกล่าว ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที
"เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ทำบัตรอิเล็กทรอนิกซ์ปลอม โดยเป็นการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ม.269/1 อัตราโทษ จำคุก 1 ปี ถึง 5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท ทำเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลง หรือสำหรับให้ได้ข้อมูลในการปลอมหรือแปลงบัตรอิเล็กทรอนิกซ์ ม.269/2 อัตราโทษจำคุก 1 ปี ถึง 5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น ม.269/4 อัตราโทษ จำคุก 1 ปี ถึง 7 ปี ปรับ 20,000-140,000 บาท จากแผนประทุษกรรมการติดตั้งเครื่องสกิมเมอร์เพื่อดูดข้อมูลบัตรอิเลกทรอนิกซ์ในประเทศไทยนั้น " พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าว