19 กันยายน 2566 นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท ออกหนังสือแจ้งเตือน สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 2/2566 ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เรื่อง สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 2/2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำไหลผ่าน เขื่อนเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 300 - 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณ ตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1.00 - 1.50 เมตร นั้น
สืบเนื่องจาก ยังมีฝนตก และมีน้ำหลาก จากพื้นที่ตอนบน ของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหล ลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูล ณ วันที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 16.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 790 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำ เหนือเขื่อนเจ้าพระยา ยกตัวสูงขึ้น อยู่ที่ระดับ +16.49 เมตร/รทก. ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 421 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยจะรักษาระดับน้ำเหนือเขื่อน ไม่ให้เกินระดับ +16.50 เมตร/รทก. และคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะมีแนวโน้มสูงขึ้น อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 500 - 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ถึงบริเวณ ตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา และตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกประมาณ 1.00 -1.20 เมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว ยังคงอยู่ในตลิ่งลำน้ำ
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการระบายน้ำ ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ด้วยการบริหารจัดการน้ำ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีให้มีผลกระทบ ต่อพื้นที่การเกษตร หากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน เขื่อนเจ้าพระยา มากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
สำหรับปัจจุบัน ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหล ผ่านจุดวัดอยู่ที่ 928 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อน อยู่ที่ 16.50 เมตร/รทก. และปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อน อยู่ที่ 8.26 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 7.72 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 491 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งส่งผลทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C.3 บ้านบางพุดทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน จุดวัดอยู่ที่ 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม รับสถานการณ์น้ำ สำนักงานชลประทานที่ 12 จึงขอประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการ ในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด