4 กันยายน 2566 ประเด็นร้อน สำหรับขบวนการ "แก๊งมอดไม้พะยูง" ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่มีพฤติกรรมเหิมเกริมอย่างหนัก ก่อเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ 8 ราย ลักของกลาง "ไม้พะยูง" หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด และการเข้าประมูลตัด "ไม้พะยูง" ภายในโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด 28 - 56 เท่าตัว รวมถึงการลักลอบตัด "ไม้พะยูง" ตามพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ซึ่งกรณีนี้ "ยิ่งแฉ ยิ่งเห็นภาพใหญ่" เมื่อพบว่า ข้าราชการในพื้นที่มีเอี่ยว "ฟอกไม้" ส่งออก ขายสมบัติชาติกิน รวมถึงมีการระบุว่า ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งของกรมธนารักษ์เกี่ยวกับการตัดไม้มีค่า แถมยังปรากฎภาพของกลุ่มคนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ใช้สว่านเจาะดูแก่น "ไม้พะยูง" 9 ต้น ภายในโรงเรียนโคกกลางเหนือพิทยา อ.ห้วยเม็ก ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง เปิดเผยว่า ปัญหาการตัดไม้พะยูงในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เกิดขึ้นจากน้ำมือของนายทุนค้าไม้ รวมถึงการช่วยกันสอดส่อง ดูแลต้นไม้หวงห้าม โดยเฉพาะ "ไม้พะยูง" ที่หลงเหลืออยู่ตามวัด สถานที่ราชการ โดยเฉพาะโรงเรียน ที่ปรากฏเป็นข่าวฉาว ในหลายพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์
จากนั้น นายธวัชชัย ได้เดินทางไปดูไม้ของกลาง ที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เป็น "ไม้พะยูง" ของกลาง จำนวน 27 ท่อน จากโรงเรียนบ้านคำเชียงวัน ต.โนนแหลมทอง อ.สหัสขันธ์ ซึ่งถูกลักลอบตัด นำมาเก็บไว้ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา และมีการประกาศขาย ด้วยวิธีการประมูล ในวันที่ 8 ก.ย. นี้ ปรากฏว่า ของกลางยังอยู่ครบ
นายธวัชชัย กล่าวว่า หลังจากมีการเปิดโปง พฤติกรรมการตัดไม้หวงห้าม โดยเฉพาะ "ไม้พะยูง" ตามโรงเรียน ในพื้นที่ สพป.เขต 2 เป็นปัญหาข้ออ้างกล่าวถึง ระเบียบพัสดุของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ว่า สามารถกระทำได้ ตามระเบียบพัสดุ กรมธนารักษ์จริงหรือไม่ และตกเป็นข่าวฉาวมานานเกือบ 1 เดือนนั้น
ขณะนี้ปรากฏว่า มีชาวบ้านในพื้นที่โรงเรียน ที่ถูกตัดไม้พะยูงไปแล้ว ส่งเอกสารหลักฐาน ผ่านมายัง กอ.รมน.จ.กาฬสินธุ์ รวมถึงชุดเฉพาะกิจ เบื้องต้นที่เป็นข่าว เกิดขึ้น 3 แห่งประกอบด้วย โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ไม้พะยูงถูกตัดไป จำนวน 22 ต้น 2 ตอ , โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก ไม้พะยูงถูกตัดไป จำนวน 9 ต้น , โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก ไม้พะยูงถูกตัดไป 3 ต้น
ทั้ง 3 แห่งนี้ ถูกตัด "ไม้พะยูง" ไปทั้งหมดแล้ว เรื่องนี้ ป.ป.ท.ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพื่อดำเนินการสอบสวน เกี่ยวกับระเบียบพัสดุ รวมถึงข้อห้าม ตามกฎหมายในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงความจำเป็นเหตุผล ในการตัดไม้ จำนวนเงินที่ไม่คุ้มค่า กับราคาที่ต้องจ่าย ต่อความเสียหายของ "ไม้พะยูง"
นายธวัชชัย กล่าวว่า เบื้องต้นถือว่า การประมูลไม่เข้าหลักเกณฑ์ ที่ส่อผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย คู่สัญญาระหว่าง สพป.เขต 2 และ ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และคำสั่งเลขที่ กค 0305/ว 20 ลงวันที่ 1 ก.พ. 60 เรื่องการตัดไม้ในที่ราชพัสดุ
อีกทั้งมีข้อมูล การประกอบธุรกิจการค้าไม้จาก พาณิยช์จังหวัดกาฬสินธุ์ ยืนยันว่า กรณีการตัดไม้ หรือประกอบธุรกิจการทำไม้ โดยเฉพาะไม้หวงห้ามนั้นไม่มีจริง เพราะหากเกิดการซื้อขาย จะต้องมีผู้ประกอบการที่ชัดแจ้ง มีการแจ้งจดขึ้นทะเบียนผู้เสียภาษี กับทางพาณิชย์จังหวัด และต้องได้รับการอนุญาต ให้ค้าไม้หวงห้ามด้วย
หากมีการกล่าวอ้างว่า เป็นการค้าขายไม้ หรือประมูลไม้ถูกต้อง ถือเป็นการลวงโลก เพราะแม้แต่จะใช้ระเบียบพัสดุ ก็จะต้องเสียภาษีเข้าหลวง ดังนั้นกรณีนี้ไม่เป็นความจริงยิ่ง เป็นการทำไม้พะยูง (ไม้หวงห้าม) เพื่อการค้าเพื่อการส่งออก ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังไม่มีการอนุญาต และขณะนี้ได้ทำหนังสือเชิญ ให้ทางพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบปัญหานี้ด้วยแล้ว
ส่วนกรณี สื่อนำเสนอข่าวภาพหลักฐาน เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา จากกล้องวงจรปิด ของโรงเรียนโคกกลางเหนือ อ.ห้วยเม็ก สามารถบันทึกภาพ กลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คน ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ นำสว่านมาเจาะต้นไม้พะยูง ภายในโรงเรียนจำนวน 9 ต้น และมีการพูดคุยกับครูว่า จะมีการประมูลไม้พะยูงขายนั้น
ได้วิทยุสั่งการไปยัง นายอำเภอห้วยเม็ก ให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำบันทึกเป็นรายงานว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดนั้นคือใคร เป็นเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ในพื้นที่จริงหรือไม่ หากจริงจะต้องมีการชี้ตัว และดำเนินคดีตามมาตรา 157
จะต้องสอบถามว่า ธนารักษ์มีหน้าที่อะไร ในการตระเวนใช้สว่างเจาะไม้พะยูง เพื่อความชัดเจนข้อมูล จะให้ทางอำเภอ ประสานไปยังตำรวจติดตาม หากไม่ใช้เจ้าหน้าที่ธนารักษ์กาฬสินธุ์ ก็คงเป็นกลุ่มนายทุนจีนค้าไม้ ที่เหิมเกริมแฝงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงถือเป็นภัยคุกคาม ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันแก้ไข
พ่อค้าจีนรอเก้อ “อดสวาปาม” ไม้พะยูงราคาถูก ธนารักษ์ยกเลิกประมูลไม้
มีรายงานว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้า การดำเนินการสอบสวนจาก ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.ขอนแก่น แต่มีความเคลื่อนไหวของหลายภาคส่วน ที่ให้ข้อมูลแนวทาง เพื่อทราบข้อเท็จจริงจาก สพป.เขต 2 และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ซึ่งมีความสัมพันธ์ต่อกัน อีกทั้งสองหน่วยงานนี้ ก็ยังไม่ให้ข้อมูลแต่อย่างได้ แต่ได้อ้างว่า รายงานเรื่องทั้งหมด ส่งไปให้ส่วนกลาง ให้ไปติดตามเอาเอง กับอธิบดีกรมธนารักษ์ รวมถึง เลขาฯ สพฐ.
รายงานแจ้งว่า มีความเคลื่อนไหวบนเว็บไซต์ ของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ครั้งแรก ตั้งแต่มีปัญหา ตรวจสอบการตัด "ไม้พะยูง" โรงเรียนเพื่อการประมูล เป็นการออกประกาศยกเลิก การประมูล "ไม้พะยูง" ที่ทำเอาวงการค้าไม้ฮือฮาอีกครั้งหนึ่ง
โดยประกาศระบุว่า สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ยกเลิกประกาศขายทอดตลาด ต้นไม้ในที่ราชพัสดุ (ต้นพะยูง) จำนวน 27 ท่อน ของโรงเรียนบ้านคำเชียงวัน โดยวิธีประมูลด้วยวาจา เนื่องจากคณะกรรมการประเมินราคาต้นไม้ ขอทบทวนราคากลาง มูลค่าไม้ขั้นต่ำใหม่ ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อทางราชการ จึงขอยกเลิกประกาศดังกล่าว ปรากฏเป็นไทม์ไลน์ประกาศดังกล่าว
เบื้องต้นพบว่า "ไม้พะยูง" จำนวน 27 ท่อน ได้จากการตรวจยึด ที่โรงเรียนบ้านคำเชียงวัน หลังถูกคนร้ายลักลอบตัด และนำมาเก็บรักษาไว้ที่ด้านหลัง สำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ออกประกาศขายทอดตลาดทางเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 66 กำหนดเปิดให้มีการประมูล "ไม้พะยูง" จำนวน 27 ท่อน ปริมาตร 2.52 ลูกบาศก์เมตร ราคาเริ่มต้น 40,000 บาท ในวันที่ 8 ก.ย.66 ที่ห้องประชุมสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์
ต่อมาประกาศบัญชี "ไม้พะยูง" ที่จะขายทอดตลาดจำนวนดังกล่าว ถูกลบออกจากเว็บไซต์ ล่าสุดมีการยกเลิกประกาศ 22 ส.ค. 66 และประกาศยกเลิกทางเว็บไซต์ ของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ วันที่ 1 ก.ย. 66 จึงทำเอาบุคคลในวงการค้าขายไม้พะยูง พ่อค้าตัวแทนนายทุนจีน ซึ่งคาดว่า มีหลายคน ที่เตรียมเนื้อเตรียมตัวไปจะประมูล รู้สึกผิดหวังไปตาม ๆ กัน เพราะไม้พะยูงมีราคาถูก
ชาวบ้านเรียกร้องให้นายกฯ "เศรษฐา" ส่งส่วนกลางตรวจสอบคดีไม้พะยูง
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ อ.ห้วยเม็ก อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ที่ส่งข้อมูลหลักฐานมาทาง กอ.รมน.จ.กาฬสินธุ์ เริ่มไม่สบายใจ ในการทำงาน เนื่องจากมองว่าล่าช้า เพราะกรณีนี้นานเกือบ 1 เดือน ซึ่งพบว่า มีเพียงตำรวจส่งสำนวน ให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีกับ 8 ข้าราชการ ที่พัวพันกับของกลาง ที่หายจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ
แต่ในส่วนของการตัด "ไม้พะยูง" ตามโรงเรียน กลับไม่สามารถดำเนินการ ทราบข้อเท็จจริงอย่างใด แม้ทางจังหวัดกาฬสินธุ์ จะพยายามติดตามปัญหานี้ เพื่อความกระจ่างของสังคม จึงขอให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้เข้ามาตรวจสอบปัญหานี้ อย่างเร่งด่วน