30 สิงหาคม 2566 ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง กรณี "แก๊งมอดไม้พะยูง" ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่พฤติกรรมเหิมเกริมอย่างหนัก ก่อเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ 8 ราย ลักของกลาง "ไม้พะยูง" หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด
และกรณี การเข้าประมูลตัด ไม้พะยูง ในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด 28 - 56 เท่าตัว โดยเรื่องนี้ จังหวัดได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.- ส.ต.ง.-ป.ป.ท. เอาผิดทางวินัย แพ่ง อาญา ขณะที่ชาวบ้านที่อนุรักษ์ป่าไม้ ได้ส่งหลักฐาน การประมูล ไม้พะยูง ขาย ที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก เป็นฝีมือข้าราชการ ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ (ฝ่ายความมั่นคง) หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ คลี่คลายปัญหาการตัดไม้พะยูง ได้ทำหนังสือ วิทยุสั่งการ ให้ นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ ทำการสำรวจข้อมูลไม้หวงห้าม และไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ในพื้นที่สาธารณประโยชน์ โรงเรียน และวัด เพื่อทำการสำรวจข้อมูล และจัดทำบัญชีคุมไม้หวงห้าม และไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้พะยูง ไม้สัก ไม้ประดู่ และไม้มีค่าประเภท ก. ในที่สาธารณประโยชน์ โรงเรียน วัด
โดยให้ระบุ รายละเอียดสถานที่ตั้ง พิกัด จำนวนต้น พื้นที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานใด พร้อมให้แจ้งชื่อ นามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ ผู้ดูแลสถานที่ โดยให้รายงานข้อมูลให้จังหวัดทราบ ภายในวันที่ 20 ก.ย. 66 เป็นหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 28 ส.ค. 66
นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหาการตัดไม้พะยูง ที่ จ.กาฬสินธุ์ จะต้องแยกออกเป็น 2 กรณี กรณีแรกเป็นปัญหาการขโมยไม้ของกลาง จำนวน 7 ท่อน ที่หน้าเสาธง สำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด เหตุเกิดวันที่ 5 ส.ค. 66 และอีกกรณีคือ การฝ่าฝืนคำสั่ง ของทางจังหวัดกาฬสินธุ์ เกี่ยวกับการประมูล ไม้พะยูง ขาย จำนวน 22 ต้น กับอีก 2 ตอ เหตุเกิดที่โรงเรียนคำไฮวิทยา
กรณีไม้พะยูงของกลางหาย ถือเป็นคดีที่เกิดขึ้น เกี่ยวพันกับข้าราชการของรัฐ พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง ผู้รับผิดชอบคดี ได้ส่งสำนวนที่มีอยู่เกือบ 300 หน้า ให้ ป.ป.ช. ประจำ จ.กาฬสินธุ์ ดำเนินการพิจารณา ที่ระบุว่า มีข้าราชการ กรมป่าไม้ ข้าราชการท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวม 8 คนมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งทาง ป.ป.ช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ กำลังพิจารณา เพื่อส่งฟ้องในฐานทุจริต (157) ทั้งแพ่งและอาญาต่อไป
ส่วนกรณีการประมูล ไม้พะยูง ขาย ที่โรงเรียนคำไฮ ป.ป.ท. จ.ขอนแก่น ได้ลงพื้นที่แล้ว 1 ครั้ง และกำลังดำเนินการสอบสวนในทางลับ คู่ขนานไปกับทางจังหวัดกาฬสินธุ์
เบื้องต้น มีผู้เกี่ยวข้องประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนคำไฮวิทยา , ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 , เรื่องนี้ ผอ.ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ยังไม่รายงานเหตุผล การประมูลไม้พะยูงจำนวน 22 ต้น 2 ตอ ว่า ประมูลไปด้วยเหตุผลใด เพราะเป็นการฝ่าฝืน ข้อสั่งการจังหวัด และแนวทางปฏิบัติของกรมธนารักษ์ โดยจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ได้รายงานมาทางจังหวัดทราบ เพียงแจ้งว่า ได้รายงานไปยังส่วนกลางต้นสังกัดแล้ว
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ปัญหาทั้งสองกรณีนี้ ประชาชนในพื้นที่ และสังคมให้ความสนใจอย่างมาก และทราบว่า มีโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 มีโรงเรียนหลายแห่ง ที่มีการประมูลไม้พะยูง ไปขาย
ล่าสุดชาวบ้านได้เรียกร้องให้ไปตรวจสอบ ที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก ว่า มีการตัดต้นไม้พะยูง ด้วยวิธีประมูลขายนำเงินเข้าหลวง จำนวน 9 ต้น ขายให้กับพ่อค้าในราคา 104,000 บาท เมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา
ซึ่งมีพฤติกรรมการตัดไม้พะยูงประมูลขาย คล้ายกับปัญหาที่เกิดขึ้นที่ โรงเรียนคำไฮวิทยา กรณีนี้ชุดเฉพาะกิจ ได้เข้าตรวจสอบ พบเป็นไปตามที่ชาวบ้านร้องเรียน โดยทาง กอ.รมน.จ.กาฬสินธุ์ ยังพบหลักฐานภาพถ่าย และเอกสารวิธีการประมูลไม้พะยูงขายทั้งหมด ซึ่งครั้งนี้ ทางจังหวัด ได้ทำหนังสือเป็นรายลักษณ์อักษร ไปถึงธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ และ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 อีกครั้ง เพื่อขอทราบเรื่อง การให้อนุญาตประมูลไม้พะยูง และการประมูลไม้พะยูง หรือไม้เศรษฐกิจของกลาง บนพื้นที่ราชพัสดุ ย้อนหลังตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ. 62 ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคง ได้กล่าวถึงแนวทางการสอบสวน ของพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง คดีขโมยไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน จากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ ว่า สำนวนมีความสมบูรณ์มาก และผลการสอบสวน ก็ตรงกับผลสอบคู่ขนาน ของชุดเฉพาะกิจจังหวัด
คดีนี้ มี “เสี่ย ส.” เป็นนายหน้า เข้ามาประสานคนแรก ตกลงซื้อขายในราคา 200,000 บาท ที่เข้าใจว่า เป็นไม้ที่กำลังจะถูกประมูล แต่ตกลงกันไม่ได้ เพราะไปรู้ถึงหู พ่อค้าชาวจีนคนหนึ่ง ที่ให้ราคา 290,000 บาท ในวันที่ 5 ส.ค. 66 ซึ่งเป็นวันที่ไม้ของกลางหาย ปรากฏ จนท.ป่าไม้ ไปพบกับคนรับขนไม้ และมีการวัดขนาด และส่งไปให้พ่อค้าชาวจีน จนมีการตกลงซื้อขาย จึงได้ทำการขนไม้พะยูงออกจากพื้นที่ไป
โดยมีการเปิดประตูหน้า สำนักงานเทศบลตำบลอิตื้อ ขึ้นรถบรรทุก นำไม้ไปจอดพักที่ โสกหินขาว อ.ห้วยเม็ก ก่อนที่จะทำการถ่ายภาพ ยืนยันปลายทางว่า ได้นำ ไม้พะยูง ออกมาแล้ว นายทุนจีน จึงได้โอนเงินกลับมายังคนขับรถ จากนั้นเงินทั้งหมด ก็ได้ถูกโอนแบ่งสันปันส่วน ไปตามรายชื่อที่อยู่ในสำนวนการสอบสวน
“ส่วนกรณีการอนุญาตขายไม้ ที่โรงเรียนคำไฮวิทยา เชื่อว่า อีกไม่นานจะเห็นภาพเครือข่ายทั้งหมด เพราะคนมาซื้อมั่นใจว่า เป็นการซื้อที่ถูกต้อง และในเรื่องของราคาจ่ายจริง ก็ไม่ใช่ราคา ที่อยู่ในใบเสร็จรับเงิน พ่อค้าไม้คงจะนำมาเปิดเผยทั้งหมด หาก องค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. , ป.ป.ท. , สตง. จริงจังที่จะทำความจริงให้ปรากฏ เพราะถือว่า เป็นพฤติกรรมที่เหิมเกริม และถือเป็นการใช้ช่องว่างทาง กฎหมาย ระเบียบพัสดุของกรมธนารักษ์ อนุญาตประมูลตัดไม้พะยูง และไม้หวงห้าม ที่เป็นของแผ่นดิน อย่างไม่มีเหตุผล
"สิ่งที่ต้องการพูดก็คือ คนที่ตัดไม้ทำลายป่า ชีวิตไม่มีใครจบสวยซักคน”
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ปัญหามอดไม้ ที่เป็นเรื่องที่ประชาชน ให้ความสนใจทั่วประเทศนั้น มีรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ส่งชุดเฉพาะกิจเข้าพื้นที่กาฬสินธุ์ และ จ.อุดรธานี จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม ที่มีปัญหาการลักลอบตัด ไม้พะยูง ในการป้องกันเหตุ และเกาะรอยติดตามกลุ่มมอดไม้แล้ว