23 สิงหาคม 2566 ที่ จ.กาฬสินธุ์ จากกรณี ไม้พะยูง ของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มีบุคคลของรัฐไม่น้อยกว่า 6 คน เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
แต่กลับมีปัญหาการตัด "ไม้พะยูง" รายวันในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะที่ รร.คำไฮวิทยา ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี ที่เปิดให้นายหน้า เข้ามาตัด ไม้พะยูง ภายในโรงเรียนถึง 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ในราคา 153,000 บาท ต่ำกว่าราคาตลาด 28 - 56 เท่าตัว ทำให้ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.- ส.ต.ง.-ป.ป.ท. เอาผิดทางวินัย แพ่ง อาญา ผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ที่ รร.คำไฮวิทยา นายจิรวัฒน์ สุภาพ ผอ.ป.ป.ท. เขต 4 (ขอนแก่น) นายไพรัตน์ ปัจจะวงษ์ ผอ.กองปราบปรามการทุจริต 1 ป.ป.ท. เขต 4 นายชินกฤต กองคำ พนักงาน ป.ป.ท. และนายจิระเดช แสงป้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการตัดไม้พะยูงขายในราคาต่ำผิดปกติ
มีนายจารุวัตร ภูแก้ว นายอำเภอหนองกุงศรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ผู้อำนวยการและคณะครู รร.คำไฮวิทยา ผู้นำชุมชน ให้ข้อมูล โดยการลงพื้นที่ของนายไพรัตน์ ครั้งนี้ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการขอจำหน่ายไม้พะยูงจำนวน 22 ต้น และตอไม้จำนวน 2 ตอ ใน รร.คำไฮวิทยา ราคา 153,000 บาท
ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 2 ได้มีการขออนุญาตจำหน่ายต้นไม้ ในที่ราชพัสดุ จากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ โดยละเอียด
นายไพรัตน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีการตัดต้นไม้พะยูงไปแล้วจำนวน 17 ต้น คงเหลือจำนวน 5 ต้น กับอีก 2 ตอ จริง เบื้องต้น มีแนวทางเช่นเดียวกับ ทางจังหวัดกาฬสินธุ์ คือให้ชะลอการตัดต้นไม้ไว้ก่อน ทั้งนี้ ในส่วนของการเจาะประเด็น มีการตั้งข้อสังเกต ในเรื่องของการคิดคำนวณ การประเมินราคาต้นไม้ ที่มีการประเมินราคาขายไว้ที่ 153,000 บาท นั้น ว่า มีความเหมาะสม คุ้มค่าหรือไม่อย่างไร
และเหตุผลความจำเป็น ที่ต้องตัดไม้ ได้ดำเนินการทำตามระเบียบ และขั้นตอนของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ในส่วนที่ ป.ป.ท.จะรับเป็นคดีหรือไม่ ก็จะได้นำไปพิจารณาในเชิงลึกต่อไป
ส่วนความคืบหน้าคดีไม้พะยูง 7 ท่อน มูลค่า 1 ล้านบาท หายไปจากเทศบาลตำบลอิตื้อ โดยคาดว่า มีการซื้อขายกันในราคา 290,000 บาท นั้น ล่าสุด นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ ซึ่งดูแลด้านทรัพยากรธรรมชาติ ร่วมกับนายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดี กับพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง ซึ่งทราบว่า ได้ส่งสำนวนไปที่สำนักงาน ป.ป.ช.กาฬสินธุ์แล้ว
นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีลักลอบตัดไม้พะยูง หรือการขออนุญาตตัด ในพื้นที่ราชพัสดุ ภายในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์นั้น นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ทุกภาคส่วน ดำเนินการป้องกัน และดำเนินคดีกับผู้ทำการฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะหากเป็นข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญา ทางวินัย และทางแพ่ง โดยไม่มีข้อแม้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคดีไม้พะยูงของกลาง หายไปจากเทศบาลตำบลอิตื้อนั้น จากการสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทราบว่า ได้ส่งสำนวนไปที่สำนักงาน ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา
เบื้องต้นมีข้าราชการ 6 คน ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีของ ป.ป.ช. ก็จะดำเนินการสอบสวนทันที เพื่อดำเนินคดีความทางอาญา เพราะถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนกรณีการลักลอบตัดไม้พะยูงของกลางนั้นก็ ตำรวจกำลังเร่งดำเนินคดี สืบสวนหาตัวคนร้าย มาดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ นายอดิศร คงสมกัน หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุลักลอบตัดไม้พะยูงและไม้หวงห้ามในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงนี้ยังคงเกิดขึ้นเป็นคดีรายวัน โดยเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้แค่ไม้ของกลาง เครื่องมือและสิ่งของ อุปกรณ์ ของคนร้ายเท่านั้น ชี้ให้เห็นว่า มีขบวนการมอดไม้ กระจายอยู่ในพื้นที่หลายกลุ่ม
ล่าสุด เมื่อกลางดึก (22 ส.ค. 66) ที่ผ่านมา พบเห็นกลุ่มผู้กระทำผิด ตัดไม้บริเวณในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงระแนง บ.หนองหล่ม ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้ก่อเหตุไม่ทราบจำนวนหลบหนี ตรวจยึดของกลางไม้ยูคา 6 ท่อน ปริมาตร 0.867 ลบ.ม., ไม้สัก 5 ท่อน ปริมาตร 0.581ลบ.ม., ไม้ประดู่ 6 ท่อน ปริมาตร 0.681 ลบ.ม., รถเข็นล้อยาง 1 คัน มูลค่าความเสียหายของรัฐ จำนวน 30,728 บาท จากนั้นนำของกลางส่ง สภ.ยางตลาด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป