30 มิถุนายน 2566 จากกรณีที่ทุเรียนถูกนายด่านศุลกากร ที่จังหวัดสระแก้ว จับพร้อมรถบรรทุก 6 ล้อทุเรียนจำนวน 8,000 เศษ ก่อนที่จะมีการระบุว่าเป็นทุเรียนที่ถูกส่งไปจากจังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้เกษตรกรที่ปลูกทุเรียน โดยเฉพาะทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านของความอร่อย เป็นที่ต้องการตลาดผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศได้รับผลกระทบอย่างมาก
พร้อมกันนี้ยังส่งผลกระทบต่อการขายส่งแก่พ่อค้าคนกลาง เพราะทุกคนจะต้องมีใบรับรอง GAP ที่ออกโดยกรมส่งเสริมการเกษตร ต้องผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐาน GAP ทุกข้อที่กำหนด ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถทำการขนส่ง หรือนำส่งขายออกต่างประเทศไม่ได้ โดยเฉพาะการส่งทุเรียนออกไปที่ประเทศจีน จะถูกตีกลับทั้งหมดหากไม่มีใบรับรอง GAP ซึ่งก็จะมีทั้งชาวสวนเอง และพ่อค้า ล้ง ที่แอบสวมสิทธิ์ใบ GAP เพื่อที่จะได้ส่งออกทุเรียนได้ ขนย้ายทุเรียนได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ ระบุว่า ทุเรียนแปลงใหญ่เพียง 654 ราย จากทั้งหมด 914 ราย ที่มีใบรับรอง GAP นอกนั้นไม่มี ขณะเดียวกันได้มีเกษตรกชาวสวนบ้านซำตารมย์ ที่ได้เก็บทุเรียนภูเขาไฟ พร้อมในการขนส่งขายให้พ่อค้าล้ง ซึ่งพ่อค้าที่มาซื้อขอดูใบรับรอง GAP ก่อนที่จะทำการขนส่ง ภายหลังจากได้มีข่าวการจับทุเรียนที่นายด่านศุลกากร ทำให้พ่อค้าที่จะซื้อทุเรียนไปจากจังหวัดศรีสะเกษ ทั้งประกอบการขนส่ง ทั้งเพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการเตรียมส่งออกไปขายต่างประเทศ วันนี้จำต้องใช้ ต้องขอหลักฐานใบ GAP ทุกครั้งกันแล้วด้วย
นายวิชัย เกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในการส่งออกพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะประเทศจีน ตอนนี้มีความต้องการสูงมากก็คือ ทุเรียนจากประเทศไทย โดยจีนมีข้อกำหนดว่าจะต้องมีใบรับรอง GAP โดยเฉพาะทุเรียน เกษตรกรจึงต้องมาขอใบรับรอง GAP ก่อนในการปลูกทุเรียน
โดยจะมีเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรเข้าไปตรวจสอบตามมาตรฐานก่อนออกใบรับรอง ซึ่งใบรับรอง GAP จะออกเป็นเฉพาะรายๆ เฉพาะแปลงๆ ไป ดังนั้นคนที่ขอก็จะมีข้อมูล ชนิดพืชที่ปลูก แผนผังแปลง วันที่ปลูก วันที่เก็บเกี่ยว ดังนั้นก็จะไม่สามารถที่ให้คนอื่นนำไปใช้ได้ จึงระบุชัดว่า รับรอง GAP รายใดก็เฉพาะรายนั้นๆ หากนำไปสวมสิทธิ์รายอื่นๆ เพื่อทำธุรกิจ สวมอ้าง ก็จะมีความผิดตามกฎหมายได้ ที่สำคัญสามารถตรวจสอบย้อนกลับมาได้ว่า GAP ไปจากสวนไหน ปลูกเท่าใด ได้ผลผลิตเท่าไหร่ด้วย