8 มิถุนายน 2566 นายสมพิศ ชาวสวน อายุ 51 ปี เกษตรกรบ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 16 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ปรับเปลี่ยนที่ดินทำกิน 2 ไร่ มาปลูกดอกกระเจียว ส่งขายให้กับท้องตลาด หลังจากก่อนหน้านี้ ปลูกพืชไร่และผักต่าง ๆ แต่ขายได้ราคาไม่สูงมากนัก ประกอบกับมีเนื้อที่เพาะปลูกค่อนข้างน้อย มีรายได้ต่อปีแทบไม่คุ้มทุน จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาปลูกดอกกระเจียวส่งขาย เพียง 2 ไร่ก็สามารถสร้างรายได้กว่า 1 แสนบาท/ต่อปี เพราะขายได้ราคาดี ตลาดต้องการสูง
นายสมพิศ กล่าวว่า ป่ากระเจียวที่ตนเองปลูกเอาไว้นี้ เป็นกระเจียวหวานสายพันธุ์เพชรน้ำผึ้ง ได้รับคำชี้แนะจากพี่สาวให้ทดลองปลูก เพราะตอนนี้เป็นที่ต้องการของท้องตลาดอย่างมาก แถมยังมีคนเพาะปลูกน้อย จึงทำให้มีผลผลิตเท่าไรก็ไม่พอขาย ซึ่งวิธีปลูกครั้งแรก จะซื้อหัวพันธุ์มาปลูกประมาณ 10,000 บาท/ต่อไร่ เริ่มต้นปลูกตั้งแต่เดือนมกราคมให้น้ำดูแลไม่ให้หญ้าขึ้นมากนัก จากนั้นกระเจียวก็จะเจริญเติบโตจนถึงประมาณเดือนเมษายนก็จะเริ่มออกดอกให้ได้เก็บไปขาย
ส่วนการดูแลก็ไม่ยาก เพียงให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ดูแลกำจัดหญ้า ส่วนเรื่องของแมลงศัตรูพืชนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะกระเจียวแทบจะไม่มีแมลงศัตรูพืชเลย เป็นพืชที่มีกลิ่นเฉพาะทำให้แมลงไม่เข้าใกล้ ถือเป็นพืชทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะทำรายได้สูงแต่ต้นทุนการผลิตต่ำหากเทียบกับการเพาะปลูกพืชชนิดอื่น
โดยกระเจียวสามารถจะเก็บได้ทุกวันไปจนถึงช่วงเดือนพฤศจิกายนก็จะสิ้นสุดอายุการเก็บ ในช่วงนี้จึงมีรายได้เข้าทุกวัน เฉลี่ยวันละประมาณ 500-1,000 บาท รวมตลอดระยะเวลาเก็บเกี่ยว 7 เดือนเศษ ก็จะมีรายได้กว่า 100,000 บาทเลยทีเดียว และเมื่อสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว ก็จะไถเก็บเอาหัวพันธุ์และตากดินทิ้งไว้ เพื่อรอเพาะปลูกในปีถัดไป โดยหัวพันธุ์ที่เก็บได้ส่วนหนึ่งก็จะแบ่งขายและเก็บไว้เป็นพันธุ์เพาะปลูกต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะหาที่ทางขยับขยายการเพาะปลูกเพิ่มมากขึ้น