svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

แก๊งค้ายา อาศัยช่วงเลือกตั้ง ตำรวจจับไต๋ตามรวบได้ 7 รายรวด

ตร.บุรีรัมย์ ตามรวบพ่อค้ายาบ้าทั้งรายเล็ก รายใหญ่ 7 รายรวด ได้ยาบ้าเกือบแสนเม็ด ปืน 5 กระบอก พร้อมยึดทรัพย์อีกกว่า 2 ล้านบาท คาดแก๊งค้ายาอาศัยช่วงการเลือกตั้งคิดว่าตำรวจไม่สนใจ

15 พฤษภาคม 2566  พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติด 
แก๊งค้ายา อาศัยช่วงเลือกตั้ง ตำรวจจับไต๋ตามรวบได้ 7 รายรวด
หลังจากชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จังหวัดบุรีรัมย์ นำโดย พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ /หน.ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ , พ.ต.ต.สุวัฒน์ นามมงคล สว.สส.กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ สนธิกำลังกับหลายหน่วยงาน ทั้ง ตำรวจ ตชด.21,215,216 เจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.รมน., เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.กรม ทพ.26 และเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ได้บูรณาการร่วมกัน สามารถจับกุม นายบอย อายุ 35 ปี ,นายตู่ อายุ 44 ปี ,นายพินิจ อายุ 44 ปี  ,นายสัน อายุ 34 ปี ,นายจ๊อบ อายุ 23 ปี  ,นายตี๋ อายุ 24 ปี  และนายนายต้อง อายุ 23 ปี รวม 7 ราย ทั้งหมดเป็นชาว จ.บุรีรัมย์

แก๊งค้ายา อาศัยช่วงเลือกตั้ง ตำรวจจับไต๋ตามรวบได้ 7 รายรวด
ได้ของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว เบอร์ 12 (ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่มีหมายเลขทะเบียนฯ) จำนวน 1 กระบอก ,อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 (ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่มีหมายเลขทะเบียนฯ) จำนวน 1 กระบอก ,อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ง ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก (ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน)และเครื่องกระสุนปืนอีกเป็นจำนวนมาก และสามารถยึดยาบ้าได้จำนวน 97,632 เม็ด และยาไอซ์จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังยึดทรัพย์เป็นรถยนต์จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์อีก 2 คันมูลค่าประมาณ 2,150,000 บาทได้อีกด้วย 

แก๊งค้ายา อาศัยช่วงเลือกตั้ง ตำรวจจับไต๋ตามรวบได้ 7 รายรวด
พล.ต.ต.รุทธพล กล่าวว่าการทำงานร่วมกันหลายฝ่ายดังกล่าว จะทำให้งานละเอียดขึ้นโดยเฉพาะข้อมูลในเชิงลึก ทำให้สามารถตามจับกุมมาได้หลายแก๊งในคราวเดียวกัน จากข้อมูลเชิงลึกยาเสพติดทั้งหมดที่จับกุมได้ ส่วนหนึ่งมาจากประเทศเพื่อนบ้าน อีกส่วนหนึ่งถูกส่งมาจากกรุงเทพฯ และคาดว่าแก๊งค้ายาจะอาศัยช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง คิดว่าตำรวจไม่สนใจจึงนำยาออกมาส่งกันหลายจุด 

จึงอยากจะขอเตือนผู้ที่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ควรหยุดความคิด เพราะอัตราโทษของยาเสพติดรุนแรง ไม่เกี่ยวกับปริมาณเหมือนที่ผ่านมา และหากตำรวจจับได้และพบทรัพย์สินก็จะยึดเป็นของกลางส่งให้หลวงทันที 

ทั้งนี้ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาแต่ละคนตามพยานหลักฐาน กระทำความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และ “พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่”