วันที่ 30 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีของ น.ส.อ้อม (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 36 ปี เซลล์สาวที่หายตัวไปอย่างปริศนาและพบว่าได้เสียชีวิตแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดเชียงใหม่ได้บูรณาการจับตัว นายณัฐพล (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาได้ในตัวเมืองเชียงใหม่ และได้นำตัวมายังห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพบว่าเซลล์สาวเสียชีวิต ขณะที่ผู้ต้องหามีอาการเหนื่อยล้า เซื่องซึม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ ถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด้าน ญาติของผู้เสียชีวิตที่ได้เดินทางติดตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมา หลังจากได้รู้ว่า เซลล์สาวได้หมดลมหายไปแล้ว ต่างพากันร้องไห้ด้วยความเสียใจ ถึงขั้นต้องดมแอมโมเนียและต่างรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก จึงได้ตะโกนอยากถามว่า "ฆ่าเค้าทำไม" คนแบบนี้สมควรถูกประหารชีวิต อยู่ไปก็รกโลก สำหรับพิธีศพไม่ได้คิด เนื่องจากทุกคนกำลังตกอยู่ภาวะตกใจและเสียใจอย่างมาก
พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น สภาพของผู้เสียชีวิตใส่เสื้อผ้าปกติ แต่มีร่องรอยการถูกกระทำชำเราและมีรอยขีดขวนที่หน้าผาก มีรอยถูกรัดที่คอ มีเลือดออกที่ปากและจมูก ซึ่งข้อมูลอย่างละเอียดต้องการตรวจจากทางแพทย์อีกครั้ง ทางด้านของผู้ต้องหายังให้การ วกวน วนมา เนื่องอาจจะเครียด เพราะหลบหนีมาทั้งวัน และในการตรวจเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อคดีในลักษณะนี้มาก่อนในพื้นที่ กรุงเทพฯ เมื่อประมาณ 10 ปีก่อนหน้านี้
หลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่ได้พาตัว เซลล์สาวผู้เสียชีวิตไป ซึ่งมีหลายจุดในจังหวัดเชียงใหม่ โดยขณะที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ ญาติที่มายืนติดตามคดี ได้ปรี่เข้ากะที่จะประชาทัณฑ์ ผู้ต้องหา แต่ตำรวจได้ห้ามไว้ทัน
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา จากการตรวจค้นรถของหญิงสาวคนสนิทที่ทางผู้ต้องหา ยืมมาโดยอ้างว่าจะนำไปทำธุระ ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ตำรวจพบ เส้นผม ค้อน เชือกสีเขียว เคเบิ้ลไทร์ที่ใช้งานแล้ว แก้วน้ำ กระดาษชำระที่เปื้อนของเหลวคล้ายเลือด ถุงยางอนามัยที่แกะออกจากซองแล้ว และที่สำคัญคือ "แว่นตาของผู้เสียชีวิต" คล้ายว่ามีคราบเลือดติดอยู่ ซึ่งได้รับการยืนยันจากญาติผู้เสียชีวิตว่าเป็นของ เซลล์สาวจริง ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบว่า เป็นเลือดจริง แต่จะเป็นเลือดใครต้องนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างละเอียด เนื่องจากผู้ต้องหา พูดวกไป วนมา จึงขอรวบรวมข้อมูลและจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง
มีรายงานว่า กล้องวงจรปิดภายในโรงแรมม่านรูดบันทึกภาพขณะที่คนร้ายขับรถยนต์เก๋ง เข้ามาติดต่อทักภายในโรงแรมชั่วคราว โดยคนร้ายได้ขับรถเข้าไปแล้วถอยตูดเข้าจอด หลังจากที่แม่บ้านลงไปเปิดห้องให้กับคนร้ายเสร็จคนร้ายก็ได้ เปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้ก่อนที่จะเปิดฝากระโปรงท้ายและทำท่าทางในลักษณะคล้ายกับแบกเอาอะไรบางอย่างที่อยู่ท้ายรถมาไว้ที่ห้อง จากนั้นก็ได้ปิดห้องพร้อมกับขับรถออกไป
ต่อมา เป็นคลิปขณะที่คนร้ายเข้ามาจ่ายเงินประมาณช่วงก่อนเที่ยงที่ผ่านมา คนร้ายได้ขับจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ฟีโน่ สีแดงที่ใช้หลบหนีขับเข้ามา จ่ายเงินให้กับโรงแรมม่านรูดอีกครั้งโดยคนไร้อ้างว่าต้องการที่จะเปิดห้องต่ออีก 1 คืน จากนั้นคนร้ายก็ได้วนรถจักรยานยนต์ออกไป
ชมคลิป