สามี-ลูกสาว "เอ๊ะ" เหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" มอบหลักฐานเพิ่ม รื้อคดีการเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณี น.ส.กะณิกา ตุลาเดชารักษ์ หรือเอ๊ะ ซึ่งเสียชีวิตอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 ที่ปั๊ม ปตท. วงเวียนโพธาราม จ.ราชบุรี หลังได้รู้จักกับ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" ซึ่งต่อมาสามีและลูกสาว ได้นำหลักฐานเข้าพบกับ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อขอให้มีการรื้อคดีขึ้นมาทำใหม่ เนื่องจากเชื่อว่า น.ส.กะณิกา ถูกนางสรารัตน์ วางยาทำให้เสียชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• สามี-ลูก "เอ๊ะ" เหยื่อรายที่ 6 "นางสาวแอม" ขอรื้อคดี เชื่อถูกวางยาเสียชีวิต
• "อาจารย์อ็อด" เปิดผลการตรวจวัตถุพยาน‘แอม ไซยาไนด์’ เชื่อมีความรู้ทางเคมี
• อัปเดตล่าสุด เหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" โยง 19 ราย พบเหตุจูงใจ ฆ่าเพื่อล้างหนี้

28 เมษายน 2566 นายธานิน สามี และลูกสาวของ น.ส.กะณิกา เดินทางมาที่ สภ.โพธาราม เพื่อให้การและนำหลักฐานมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับนางสรารัตน์  หลังเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา ได้นำหลักฐานเข้าพบกับ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม เพื่อขอให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่

นายธานิน สามีผู้ตาย บอกว่า น.ส.กะณิกา รู้จักกับแอม ผ่านทางโซเชียล แต่ไม่ทราบว่าสนิทกันมากแค่ไหน ระหว่างนั้นมีการโทรหาทุกวัน ปรึกษาปัญหาชีวิตต่าง ๆ ส่วนเรื่องชวนการเล่นแชร์ ไม่เคยทราบมาก่อน วันเกิดเหตุ น.ส.กะณิกา ขับรถออกมาเพียงคนเดียว โดยนัดเจอแอมที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนจะนั่งรถของแอมออกไป ตอนแรกสามีไม่รู้ว่าภรรยาไปข้างนอก กระทั่งลูกสาวโทรหาแม่ แต่แอม เป็นคนรับสาย พร้อมทั้งแจ้งว่าแม่วูบหมดสติ ให้รีบมาที่ รพ.โพธาราม

ตนเองรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ภรรยาเป็นคนแข็งแรง ไม่เคยมีอาการป่วย โดยหลังเกิดเหตุ แอมไม่มีการติดต่อกลับมา และไม่รับโทรศัพท์ด้วย ส่วนเงินที่หายไปนั้น ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน แต่คาดว่าเป็นยอดเงินจำนวนมาก และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลาย ๆ เคส ทำให้ติดใจสงสัยในพฤติกรรมของแอม จึงมาแจ้งความรื้อคดี เพื่อให้แอม ได้รับโทษสูงสุด

ด้าน ผกก.สภ.โพธาราม เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องมีการรื้อคดีขึ้นมาทำใหม่ เพราะหลังจากที่ได้สอบปากคำจากสามีและลูกสาว มีแนวโน้มไปในลักษณะเดียวกันกับอีกหลาย ๆ เคส ที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวของนางสรารัตน์ เบื้องต้นจะประสานกับทางธนาคาร เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ตาย เพราะเท่าที่ทราบ ผู้ตายเบิกเงินออกมาค่อนข้างมาก