svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

เบื้องลึกสังหารโหด 4 ศพ นราธิวาส ส่อโยงเครือข่ายค้ายา “ส.ท.แว้ง”

เบื้องลึกสังหารโหด 4 ศพ นราธิวาส ส่อโยงเครือข่ายค้ายา “ส.ท.แว้ง” ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวพูดกัน น่าจะเป็นเรื่องหักกันของ “เครือข่ายค้ายาเสพติด”

24 กุมภาพันธ์ 2566 ความคืบหน้า กรณีคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรม 4 ศพ ในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส นำ 3 ศพ ยัดท้ายรถเก๋ง ไปทิ้งอำพรางในบึง บึงจือแร ม.1 ต.แม่ดง อ.แว้ง จ.นราธิวาส ส่วนอีก 1 ศพ นำไปทิ้งในแม่น้ำโก-ลก

โดยตำรวจตั้งมุ่งปมขัดแย้งเรื่อง ยาเสพติด และความขัดแย้งส่วนตัว พร้อมแกะรอยล่ากลุ่มคนร้าย ซึ่งเชื่อว่า มีไม่ต่ำกว่า 10 คน นั้น เบื้องต้น จนท.คุมตัวผู้ต้องสงสัย 4 คน ได้แล้ว ขณะที่ทางตำรวจส่ง "บิ๊กใหม่" ลงพื้นที่เพื่อสางคดี ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

เบื้องลึกสังหารโหด 4 ศพ นราธิวาส ส่อโยงเครือข่ายค้ายา “ส.ท.แว้ง”

 

ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า คดีฆ่า 4 ศพที่นราธิวาสดังกล่าว ถ้าถามคนในพื้นที่ ไม่มีใครคาดเดาเป็นอย่างอื่น แต่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะเป็นเรื่องหักกันของ “เครือข่ายค้ายาเสพติด” 
เบื้องลึกสังหารโหด 4 ศพ นราธิวาส ส่อโยงเครือข่ายค้ายา “ส.ท.แว้ง”

จากข้อมูลเชิงลึก ตรวจสอบได้คือ 

1.ผู้ตายเกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อยู่ฝั่งผู้ค้า เคยมีพฤติการณ์ทวงหนี้ โดยใช้ความรุนแรง ทั้งด่าทอ ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย คาดว่า งานนี้น่าจะถูกเอาคืน จากกลุ่มลูกหนี้ยาเสพติด หรือกลุ่มที่เคยโดนกระทำ ลงขันกัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ภรรยาของหนึ่งในผู้ตาย เคยถูกจับตัวคล้าย ๆ เรียกค่าไถ่ หรือจับเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองบางอย่างมาแล้ว

2.ข้อมูลของตำรวจพบว่า ผู้ตายทั้ง 4 ราย มี 1 ราย คือนาย อัสวี มือลี อายุ 20 ปี ไม่พบประวัติเกี่ยวกับยาเสพติด ขณะที่ นายนิเฮง ประเปะ อายุ 28 ปี ทางครอบครัวให้ข้อมูลว่า เดิมทำงานโรงงานที่ปัตตานี แต่กลับมาอยู่บ้านมา 4 เดือน คาดว่าเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักของผู้ตายอีก 3 คน แล้วไปเที่ยวนั่งรถด้วยกัน ทำให้ชะตาขาด

3.กลุ่มผู้ตายบางคนมีชื่ออยู่ในเครือข่ายค้ายา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นอำเภอเล็ก ๆ ติดชายแดน รอยต่อของของ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งขึ้นชื่อเรื่อง สินค้าหนีภาษี (ของเถื่อน) และยาเสพติด

เครือข่ายยาเสพติดของ อ.แว้ง ใหญ่โตพอสมควร หัวหน้าใหญ่คือ อดีต ส.ท.แว้ง ชื่อ “ส.ท.ลัน” สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแว้ง เคยถูกตำรวจ และ ป.ป.ส. เข้าค้นบ้านหรูที่ อ.แว้ง เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 63 ยึดทรัพย์ได้มากกว่า 20 ล้านบาท (ขนาดเป็นอำเภอเล็กๆ ริมชายแดนสามจังหวัดใต้ที่มีแต่ความรุนแรง)

ต้องรอดูว่าคดีนี้จะจบลงอย่างไร จับมือใครดมได้หรือไม่ หรือจะมีการฆ่าล้างแค้นกลับจากฝั่งผู้ตาย เพราะคนกลุ่มนี้มีอิทธิพล และหลายครั้งกฎหมายก็สาวไม่ถึงตัวอย่างน่าประหลาด
เบื้องลึกสังหารโหด 4 ศพ นราธิวาส ส่อโยงเครือข่ายค้ายา “ส.ท.แว้ง”
 

ย้อนคดีฉาว 2 เครือข่ายยักษ์ค้ายานราฯ 

นราธิวาส เป็นจังหวัดติดชายแดนมาเลเซีย มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาตลอด เพราะเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากเมียนมา และลาว (หลัง ๆ ขนผ่านลาว ข้ามโขงเข้าไทย) เมื่อผ่านแนวชายแดนทางภาคเหนือมาได้ ก็จะมาพักยาที่บ้าน หรือโกดังตามปริมณฑลของกรุงเทพฯ จากนั้นส่งลงใต้ ขายในพื้นที่ และส่วนใหญ่ส่งต่อมาเลเซีย เพราะราคาสูงขึ้นกว่า 10 เท่า ยาเสพติดที่ต้องการมาก คือ ยาบ้า และไอซ์ ปลายทางอีกแห่งหนึ่ง คือ ออสเตรเลีย

เครือข่ายค้ายาใหญ่ที่สุด มี 2 เครือข่าย 

1. นายอุสมาน สะแลแม็ง มีฐานใหญ่อยู่ในนราธิวาส รับยาเสพติดจากลาว ก่อนลำเลียงเข้าพื้นที่เพื่อกระจายยา และส่งข้ามไปมาเลเซีย ยาวไปถึงออสเตรเลีย

นายอุสมาน เคยถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เรียกเข้ารายงานตัวหลัง คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองใหม่ ๆ แต่เขาไม่ปรากฏตัว เชื่อกันว่า นายอุสมาน ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่เครือข่ายของเขาแข็งแกร่งมาก บ้างก็ลือว่ามีการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงใบหน้า ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในประเทศเพื่อนบ้าน

เม็ดเงินสะพัดจากการค้ายาเสพติดของ นายอุสมาน มีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เงินสด ๆ เกือบ 10 ล้านบาทที่ซุกอยู่ในรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยึดได้จากบ้านเครือข่ายของ นายอุสมาน ย่านสะพานสูง กรุงเทพฯ เมื่อปี 2548 โดยที่ไม่รู้ว่าในรถมีเงินซุกอยู่ใต้แผงประตู กระทั่งเรื่องมาแดงในปี 2552 เปิดแผงประตูออกมาเจอเงินสด ๆ 9,998,000 บาท จนเป็นที่ฮือฮา
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีตรอง ผบ.ตร.ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานตำรวจ ลงพื้นที่เพื่อสางคดี

สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะนราธิวาส เป็นฐานที่มั่นใหญ่ของเครือข่ายค้ายา นอกจากกลุ่มของนายอุสมาน แล้ว ยังมีเครือข่ายของ “นายมะยากี ยะโก๊ะ” เคลื่อนไหวอยู่ในเขตอำเภอสุไหงโก-ลก รับยาเสพติดจากภาคเหนือ เพื่อลำเลียงเข้าพื้นที่ ก่อนส่งข้ามไปมาเลเซีย

นายมะยากี เคยถูกค้นบ้านเมื่อปี 2550 และพบเงินสด ๆ 30 ล้านบาทซุกอยู่ในท่อพีวีซี จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั้งประเทศ ภายหลังนายมะยากี ถูกจับโดยตำรวจปราบปรามยาเสพติดมาเลเซีย ก่อนส่งตัวให้ทางการไทย ทำให้เครือข่ายของนายมะยากี ลดอิทธิพลลงไปบ้าง

เมฆหมอกยาเสพติด ยังปกคลุมนราธิวาส ถ้ายังจำกันได้ ปลายปีที่แล้ว มีการสั่งย้าย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เนื่องจากถูกร้องเรียนว่า ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์แก๊งค้ายาในพื้นที่ ป่านนี้ยังไม่ได้ย้ายกลับ แถมโดนย้ายไปอยู่ในตำแหน่ง ไม่ได้สัมผัสพื้นที่ ไม่ได้สัมผัสประชาชน ในการโยกย้ายนอกฤดูเมื่อปลายปีที่แล้ว ต่อเนื่องต้นปีนี้

อีกกรณีคือ อดีตนายอำเภอสุไหงโก-ลก ที่ถูกตรวจสอบย้อนหลัง ตอนเป็นผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.ว่า มีการไปออกใบอนุญาตครอบครองปืน ให้ผู้ต้องสงสัยเครือข่ายค้ายาในอำเภอสุไหงโก-ลก มากกว่า 10 กระบอก แถมภายหลังยังโดนแจ้งจับ ในข้อหาพัวพัน พนันออนไลน์ จนถูกลดชั้นย้ายไปเป็นนายอำเภอในภาคอีสาน แต่ก็ยังเป็นตำแหน่งที่สัมผัสประชาชน

นี่คือตัวอย่างอื้อฉาว ของเรื่องราวเกี่ยวพันยาเสพติดในนราธิวาส
 

    News Hub