21 มกราคม 2566 เหตุการณ์ถูก"แอปฯสรรพากร"ปลอม ดูดเงินเกลี้ยงบัญชีครั้งนี้ได้รับการเปิดเผยจาก นางบุญทัน เสวิสิทธิ์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ในพื้นที่ต.นามาลา อ.นาแห้ว จ.เลย หลังถูกหลอกให้ทำรายการผ่านแอปฯปลอม ถูกดูดเงิน 3 บัญชี หมดไป 1,682707 บาท
นางบุญทัน เล่าว่า มีคนอ้างตัวว่า เจ้าหน้าที่สรรพากร โทรมาบอกว่าให้ยกเลิก แอปฯ"ถุงเงิน" และให้ไปเสียภาษีย้อนหลัง แต่ตนเองไม่สะดวกคุย เพราะกำลังขายก๋วยเตี๋ยว กระทั่งต่อมาได้โทรมาบอกไปเสียภาษีย้อนหลัง แต่ได้ตอบกลับไปว่าได้ไปเสียภาษีแล้วปีละ 2 ครั้ง จากนั้นให้ตนยืนยันว่ามีการเสียภาษีที่ถูกต้องผ่านการทำรายการทางแซตไลน์
แต่เนื่องจากไม่มีความชำนาญและทำไม่เป็น จึงให้นางสาวกันติมา แข็งขัน ลูกสะใภ้ ทำรายการให้ ขณะที่กำลังทำอยู่นั้นถือมีอาการค้าง จึงเริ่มเอะใจจะปิดเครื่องก็ไม่ได้ สุดท้ายไปเช็กบัญชีที่ธนาคารกรุงไทย และธนาคาร ธกส. รวม 3 บัญชีพบว่าเงินหายไป 1,682,707 บาท
นางบัญทัน กล่าวว่า หลังถูกดูดเงินในบัญชี ได้รีบไปธนาคาร ธกส.สาขาด่านซ้าย เพื่อขอดูบัญชี พบว่ายอดเงิน 256,513 เหลือ 1,513 บาท ทราบชื่อบัญชีปลายทาง ธนาคารกรุงไทย ชื่อ นายสิทธิชน สาลี แล้วเดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทย สาขาด่านซ้าย ที่เปิดบัญชี พบว่าบัญชีฝากประจำที่ไม่เคยเบิกเงินออกมาเลย มียอดเงิน 1,271,000 บาท เหลือ 770 บาท และบัญชีออมทรัพย์ มียอดเงิน 155,194 บาท เหลือ 1,145 บาท
"เจ้าหน้าที่สั่งบอกให้ปิดบัญชีแล้วไม่ให้รายละเอียดอะไรเลย ถามชื่อบัญชีปลายทางก็ไม่บอก ทั้งที่บัญชีฝากประจำมียอดเงิน 1,271,000 บาท ไม่ได้ผูกกับแอปฯ หรือเคยถอนเงินออก"
ด้าน นางสาวกันติมา แข็งขัน ฝากถามไปยังธนาคารกรุงไทยว่า เวลาเอาเงินไปฝากธนาคารไม่เห็นจะว่าอะไร พอเราได้รับความเสียหาย ทำไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรเลย เงินเราหายกว่า 1,000,000 บาท ไม่สะทกสะท้านอะไร ไม่เดือดร้อนอะไรเลย
"จะไปปรึกษาทนายเพื่อขอต่อสู้ ที่ธนาคารไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยบัญชีของลูกค้า ไม่ใช่เราเสียหายแล้วสั่งให้ปิดบัญชี"