แม่โวย รพ. ติดฉลากยาผิด เอาไปป้อนให้ลูก 2 เดือนกิน กลายเป็นคาลาไมน์

24 ธันวาคม 2565 ที่ จ.กระบี่ กรณีเด็กทารกวัย 2 เดือน เป็นลูกชายของ น.ส.ขนิษฐา (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู รพ.กระบี่ โดยต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด หลังถูกส่งตัวมาจาก รพ.คลองท่อม ตั้งแต่วัน 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา 

น.ส.ขนิษฐา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ปลายเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา พาลูกชายอายุ 2 เดือน ไปพบหมอที่ รพ.คลองท่อม เพื่อตรวจสุขภาพเด็กแรกเกิด แพทย์แจ้งว่า ลูกมีอาการไข้ อยากให้นอน รพ. จึงให้ลูกนอนรักษาตัวที่ รพ. จนวันที่ 2 ธ.ค. หมอให้กลับบ้านได้ พร้อมสั่งจ่ายยามาให้กิน

เมื่อกลังถึงบ้านนำยาที่ รพ.จ่ายให้ มาป้อนให้ลูกกิน เป็นยาน้ำแบบขวด มีฉลากยาภาษาไทย ซึ่งทาง รพ. แปะมาให้ระบุเป็นแคลเซียม ให้รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หรือ 1 ซีซี ตนจึงนำยาใส่หลอด ป้อนให้ลูกกินตามคำแนะนำของ รพ. เมื่อป้อนครั้งแรก ลูกก็กินปกติ แต่พอป้อนครั้งที่ 2 ลูกไม่ยอมกิน และเริ่มร้องงอแง จึงตกใจเรียกสามีมาดู เมื่อสามีลองชิมยาก็บอกว่า เป็น "คาลาไมน์" ยาสำหรับรักษาอาการโรคผิวหนัง ใช้สำหรับทาภายนอก


 

น.ส.ขนิษฐา กล่าวว่า หลังจากนั้นลูกมีอาการอาเจียน อุจจาระออกมาเป็นน้ำ จึงพากลับมาที่โรงพยาบาลแพทย์ให้นอนโรงพยาบาล นอนอยู่ 6 คืน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ทาง รพ.เองก็ไม่ยอมบอกความชัดเจนว่า ลูกป่วยเป็นอะไร บอกเพียงอาการไม่หนัก และปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวกับคาลาไมน์ที่กินไป

จนวันที่ 7 ธ.ค. น้าสาวมาเยี่ยม และเห็นว่า ลูกอาการยังไม่ดี จึงโวยวายขอให้ทาง รพ. รีบส่งตัวเด็กไปที่ รพ.กระบี่ ก็ไปนอนที่ รพ.กระบี่ จนวันที่ 11 ธ.ค. หมอก็ให้กลับบ้านอีกครั้ง โดยให้ใบรับรองแพทย์ ระบุว่า เด็กมีอาการผิวหนังอักเสบ บริเวณถุงอัณฑะ ขณะนั้นก็คิดว่า น่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่พอกลับมาอยู่บ้านได้ 2 วัน ลูกก็ยังอาการไม่ดี ยังถ่ายเหลวตลอด

กระทั่งวันที่ 14 ธ.ค. หมอที่ รพ.กระบี่ นัดให้มาตรวจอีกครั้ง ก็พาไปตรวจ หลังจากนั้นก็ให้นอนที่ รพ. เพื่อดูอาการ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จนวันที่ 21 ธ.ค. พาลูกเข้าห้องไอซียู มาจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่ห้องไอซียู แต่หมอกลับไม่บอกว่า ลูกป่วยเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งตนและสามี ก็เริ่มกังวลว่า ลูกจะเริ่มอาการหนักขึ้น กลัวลูกจะเป็นอะไรไป

พยายามบอกหมอ ให้ช่วยทำเรื่องส่งตัวไปรักษาที่ รพ. ที่รักษาได้ดีกว่านี้ เพราะตนไม่มีเงินพอจะพาลูกไปรักษาเอง ต้องให้รักษาที่ รพ. ของรัฐ แต่ทางหมอของ รพ.กระบี่ ยังยืนยันว่า รักษาได้ ไม่ยอมส่งตัวไปรักษาต่อที่อื่น ทำให้ตนกังวลมาก

จนถึงวันนี้ ตนยังเชื่อว่า สาเหตุที่ลูกอาการหนักขึ้น น่าจะเกิดจากยาคาลาไมน์ที่กินเข้าไป แต่ที่ผ่านมา รพ. ทั้ง 2 แห่ง ต่างปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยว แต่ตนก็ยังสงสัยว่า ถ้าไม่ใช่ความผิด รพ. แล้วทำไมจึงโอนเงินมาให้ตนจำนวน 70,000 บาท และให้เงินติดตัวมาอีก 5,000 บาท ในวันที่ส่งตัวมา รพ.กระบี่

จึงอยากให้ รพ. ช่วยอธิบายว่า ลูกตนป่วยเป็นอะไร อาการหนักแค่ไหน และออกมายอมรับผิด กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ขณะนี้รอการชี้แจงจากทาง รพ. ที่เกิดเหตุ

ข่าว : สิทธิชัย สิขวัตร จ.กระบี่