ยืนยันพบร่างกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" เสียชีวิตจุดที่เรืออับปาง

23 ธันวาคม 2565 ความคืบหน้า ปฏิบัติการค้นหากำลังพลของ "เรือหลวงสุโขทัย" ที่ยังคงสูญหายจำนวน 23 นาย เป็นวันที่ 5 ที่เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา มีรายงานว่า "เรือหลวงบางระจัน" พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณจุดที่เรืออับปาง และอยู่ระหว่างการส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• "เรือหลวงบางระจัน" พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย จุดที่ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง
• ร่างกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" เดินทางกลับถึงบ้านเกิด อย่างสมเกียรติ
• ปฏิบัติการค้นหากำลังพล "ร.ล.สุโขทัย" วันที่ 5 ยังไร้วี่แววเจอเพิ่ม

ล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. ได้มีการลำเลียงร่างของผู้เสียชีวิต ไปยังมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน เพื่อเร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคล ขณะที่ปฎิบัติการค้นหา ยังต้องเร่งติดตามกำลังพลที่สูญหายอีก 22 นาย และมีโอกาสสูง ที่อาจจะมีร่างกำลังพลติดอยู่ใต้ซาก "เรือหลวงสุโขทัย" 

เบื้องต้นมีรายงานว่า ร่างผู้เสียชีวิตที่นำมาล่าสุด ตรวจพบกระเป๋าสตางค์ ภายในมีบัตรประตัวประชาชน ซึ่งก็จะง่ายต่อการติดต่อญาติ เเต่ขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องยืนยันอัตลักษณ์ตามขั้นตอน 

มีรายงานว่า ทวิตเตอร์ของกองทัพเรือ ยืนยันแล้วว่า ร่างผู้เสียชีวิตที่พบบริเวณ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง และ "เรือหลวงบางระจัน" นำขึ้นมา เป็นร่างของกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" เพราะกระเป๋าตังและภายในมีบัตรประชาชน

รายงานแจ้งว่า ร่างผู้เสียชีวิตที่พบนั้น ลอยเหนือน้ำจากจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง 300 เมตร และห่างจากชายฝั่งประมาณ 20 ไมล์ทะเล หรือ 30 กว่ากิโลเมตร หลังนำขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่ได้ส่งร่างไปยังมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถานทันที  

นายแพทย์เชิดชาย ชยวัฑโฒ ผอ.รพ.บางสะพาน เปิดเผยว่า ได้เชิญนิติเวช มาจาก รพ.หัวหิน 1 คน เพื่อชันสูตรเบื้องต้น หลังจากนั้นจะส่งเข้าไปพิสูจน์อัตลักษณ์ ที่นิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของญาติทั้ง 23 คนที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากสภาพร่างกายผู้เสียชีวิต อยู่ในน้ำเป็นเวลาหลายวัน เกิดการเน่าเปื่อย จึงไม่สามารถตรวจลายนิ้วมือได้ โดยเมื่อทราบจะแจ้งให้ญาติทราบในทันที 

ด้าน นาวาเอก ธีรเกียรติ ทองอร่าม รองผู้บังคับหมู่เรือหลวงบางระจัน เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ ที่พบร่างกำลังพลอยู่ใต้ท้องเรือหลวงสุโขทัยว่า การพิสูจน์ทำได้ยาก เนื่องจากมีอุปสรรค ในการมองเห็น เเละ ระยะเวลาที่ปฏิบัติการ รวมถึงมีอุปสรรคใต้น้ำ 

ขณะที่การค้น กู้ภัยสว่างฯ ร่วมกับทีมประจวบต้องรอดไปด้วยกัน ได้ใช้เจ็ทสกีขับขี่ ลาดตระเวนตรงบริเวนชายฝั่ง ตั้งเเต่ท่ายาง ทับสะเเก ถึงบางสะพาน ระยะทาง 30 กม. ก็ไม่พบทั้งเสื้อชูชีพ หรือผู้สูญหายทั้ง 23 คน จากนั้นจึงลาดตระเวนไปยังบริเวณเกาะทะลุ เลียบชายหาดยาว 20 กม. ก็ไม่พบอะไรที่เกี่ยวกับการสูญหายของเหล่าทหาร

และจากการค้นหาแบบหน้ากระดาน ก็ไม่พบความผิดปกติใด เชื่อว่า ผู้สูญหายจะลงไปด้านทิศใต้ พร้อมขอให้ญาติที่รอคอยมั่นใจว่า เจ้าหน้าที่จะช่วยกันค้นหาเต็มที่ และคาดว่ายังมีความหวัง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) ทางกองทัพเรือจะเชิญญาติผู้สูญหายมาชี้แจงการทำงาน เพื่อสร้างความมั่นใจ

สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 105 นาย สามารถช่วยได้แล้ว จำนวน 76 นาย  รักษาหายกลับบ้าน จำนวน 57 นาย รักษาตัวอยู่ ในโรงพยาบาล จำนวน 19 นาย เสียชีวิต 7 นาย และยังคงสูญหายจำนวน 22 นาย