svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

ป้าวัย 65 โร่แจ้งความ ถูกแก๊งป้ายยาชวนซื้อที่ดิน ก่อนหลอกรูดทรัพย์ 1 ล้าน

คุณป้ารุ่นใหญ่โร่แจ้ความ ถูกแก๊งป้ายยาล่อลวงลงทุนซื้อที่ดินไปทำกำไร สุดท้ายมีการป้ายยา หลอกให้ลงไปถ่ายเอกสาร แล้วขับรถเชิดเงิน 1 ล้านบาท หนีลอยนวล

21 ธันวาคม 2565 ที่ จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จากนางสายใจ อายุ 65 ปี ว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพล่อลวงและอาจจะมีการป้ายยา และได้ทรัพย์เป็นเงินสดไปราว 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งอยากจะให้สื่อช่วยติดตามาเบาะแส รวมถึงแจ้งข้อมูล เพื่อไม่ให้มีเหยื่อเสียทรัพย์จากแก๊งคนร้ายสูงวัยแก๊งนี้อีก 

นางสายใจ เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาใกล้เที่ยง ได้มีชายหญิงคู่หนึ่ง ฝ่ายชายอายุประมาณ 70 ปี รูปร่างสูง ผิวคล้ำ ฝ่ายหญิงอายุประมาณ 60 ปี รูปร่างเล็ก ได้ขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มาหาตนเองที่บ้านพัก ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าขายของชำ และมีอาชีพเสริม 

โดยคนร้ายอ้างว่า เป็นนายหน้าขายที่ดิน จะมาขอซื้อที่ดินที่ตนเองได้บอกขายเอาไว้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 3 - 4 กม. โดยบอกขายไร่ละ 3.4 ล้านบาท ซึ่งตนเองได้นั่งรถของชายคนดังกล่าว มากันทั้งหมด 3 คน 

รถคนร้ายแก๊งป้ายยาคนแก่

แต่เมื่อกำลังจะถึงที่ดิน ได้มีโทรศัพท์จากผู้หญิงคนหนึ่ง โทรเข้ามาที่เครื่องของฝ่ายชาย บอกว่าเป็นเจ้าของที่ดินประสงค์จะขายที่ดินให้ ในราคาไร่ละ 3 ล้านบาท และกำลังรออยู่หน้าที่ดิน คนขับจึงได้บอกว่า ขอไปดูที่ดินแปลงดังกล่าวก่อน เพราะว่าทางลูกค้าได้ประสงค์จะซื้อที่ดินในราคาไร่ละ 3.4 ล้านบาท แต่มีคนโทรมาให้ไปดูราคาที่ดินไร่ละ 3 ล้านบาท ซึ่งน่าจะทำกำไรได้ไร่ละ 4 แสนบาท

แต่เมื่อไปถึงหน้าที่ดิน ซึ่งตนไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ชายคนขับรถได้ลงไปคุย กับหญิงเจ้าของที่ดิน และสรุปว่า จะซื้อขายกันในราคา ไร่ละ 3 ล้านบาท แต่ทางเจ้าของที่ดินบอกว่า ปัญหาคือตอนนี้คือ ที่ดินติดจำนองไว้กับนายทุน ที่แถวตำลบลหนองปลาดุก จ.ราชบุรี 

ทั้งหมดจึงได้มานั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ เพื่อตกลงในการทำธุรกิจร่วมกัน แต่จะต้องมีการไปไถ่ที่ดินคืน ในวงเงิน 3 ล้านติดเศษประมาณ 5 หมื่นบาท คือฝ่ายชายจะลงทุน 1 ล้านบาท หญิงที่นั่งมาด้วยลงทุน 1 ล้านบาท และตนลงทุน 1 ล้านบาท แต่จะต้องพานายสายใจกลับไปบ้าน เพื่อเอาสมุดฝากเงินของธนาคารไปเบิกเงิน

นางสายใจ อายุ 65 ปี เหยื่อโดนคนร้ายป้ายยา
 

โดยจังหวะนั้นที่ร้านกาแฟ ได้มีรถยนต์เก๋งสีดำ นำเงินมาที่ร้านกาแฟ และได้นำเงินสดมาให้ประมาณ 5 หมื่นบาท คาดว่า จะทำให้เห็นว่า มีการนำเงินสดมาให้เห็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น จากนั้นเมื่อมาถึงธนาคาร ตนได้เอาสมุดไปเบิกเงิน แต่ในความเป็นจริงได้เอาเงินสด ออกมาจากบ้านพักแล้ว 1 ล้านบาทเศษ

ซึ่งฝ่ายชายได้ขอแยกตัวไปที่ห้างสรรพสินค้า เพื่อเอาทองไปขาย เพื่อนำเงินมาช่วยสมทบให้ครบของแต่ละคน เมื่อชายคนดังกล่าวขับรถกลับมารับ ก็ได้ขอให้ทั้งหมดทำการสาบานว่า จะลงทุนและสัญญาว่า จะทำธุรกิจร่วมกัน โดยไม่คดโกง ไม่บอกราคาในการซื้อขาย มีการจับมือกันบนรถ จังหวะนั้นเมื่อโดนจับตัว ก็ได้รู้สึกว่ามีอาการไม่ดีและมึนงง

จากนั้นทั้งหมดได้ขับรถมาถึงร้านถ่ายเอกสารแห่งหนึ่ง ทุกคนในรถได้บอกว่า ให้ตนเองลงไปถ่ายเอกสาร โดยเมื่อถ่ายเอกสารเสร็จได้เดินกลับมาที่จอดรถ ก็พบว่ารถหายไปแล้ว และกระเป๋าใส่เงินทั้งหมด 1 ล้านบาทเศษ ได้อยู่บนรถจึงได้โทรหาสายที่ 1 - 3 ไม่รับสาย และสายที่ 4 - 5 คนร้ายปิดเครื่องไป จึงได้คิดว่าอาจจะโดนป้ายยาแน่นอน


“ตอนที่เดินหารถก็เดินมาประมาณ 500 เมตร ก็ยังมีอาการมึน ๆ แต่ก็ยังพอมีสติ ได้มาเจอรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านมา จึงได้สอบถามว่าที่นี่คือที่ไหน เขาก็บอกว่าหนองปลาดุก จึงได้ว่าจ้างให้กลับมาส่งบ้านในราคา 100 บาท ซึ่งพอมาถึงบ้านก็รู้แล้วว่า โดนหลอกก็ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ ไม่อยากให้ใครเป็นเหยื่อ และขอให้ตำรวจช่วยตามคนร้ายแก๊งนี้ให้ด้วย ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้ว" 


วงจรปิดจับภาพรถของคนร้ายแก๊งป้ายยา

ข่าว : ปนิทัศน์ มามีสุข / ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม 
 

    News Hub