21 ธันวาคม 2565 ความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหากำลัง "เรือหลวงสุโขทัย" ประสบเหตุอับปาง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่จนถึงขณะนี้ ยังคงมีกำลังพลที่สูญหาย 23 นาย โดยกองทัพเรืออยู่ระหว่างเร่งค้นหาด้วยการเสริมกำลังเรือหลวงจำนวน 4 ลำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น. พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวตลอดทั้งวันนี้ เรื่องของการค้นพบกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย เพิ่มเติมว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า พบกำลังพลรอดชีวิตที่เกาะทะลุ แล้วช่วยไปขึ้นเรือหลวงตากสิน ไม่เป็นความจริง เพราะเรือหลวงตากสิน ไม่ได้รับการสั่งการ หรือร้องขอการช่วยเลย
ส่วนกระแสข่าวที่พบ ต้นเรือพลับ หรือ นาวาตรีพลรัตน์ สิโรดมภ์ ตำแหน่งต้นเรือสุโขทัย นั้น ยืนยันว่า ยังไม่พบ และคาดเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนเช่นกัน รวมถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องกลุ่มคนเสียชีวิต 18 นาย ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน และขณะนี้ ผู้สูญหายตัวเลขยังเท่าเดิมคือ 23 นาย
พลเรือโทพิชัย กล่าวว่า กำลังพลเสียชีวิตจำนวน 6 นาย ขณะนี้สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้แล้ว 2 นาย คือ เรือโทสามารถ แก้วผลึก เป็นกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัย และพันจ่าเอกอำนาจ พิมที สังกัดหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และได้นำร่างของทั้ง 2 นายเข้าห้องเย็น เพื่อรักษาสภาพ ส่วนอีก 4 นาย เมื่อพิสูจน์ได้เรียบร้อยแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
สำหรับแผนปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายวันนี้ ยังจะค้นหาให้ครบทั้งหมดเต็มกำลังความสามารถ หลังสภาพอากาศเริ่มดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังมีคลื่นหัวแตกอยู่ ส่วนการปฏิบัติค้นหาทางทะเลของกองทัพเรือ ที่เป็นหน่วยหลัก ได้เพิ่มพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุม โดยจะมีเรือใหญ่ คือ เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงภูมิพล เรือหลวงนเรศวร และมีเรือหลวงนราธิวาส เข้ามาเพิ่มอีก 1 ลำ และได้ขอกำลังพลจากกองทัพเรือภาคที่ 2 มาช่วย รวมถึงเรือหลวงตากสินด้วย ที่อยู่ระหว่างเดินทางมา จะไม่ให้พื้นที่ไหนหลุดรอดไปได้
พลเรือโทพิชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ในการค้นหา ร่างของผู้ประสบภัยทั้งหมด น่าจะเข้าใกล้ฝั่ง เรายังได้ใช้กำลังศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ในพื้นที่ของระยอง และประจวบคีรีขันธ์ จัดกำลังลงไปช่วยกันค้นหา และยังมีเรือของตำรวจน้ำ กรมประมง กรมทรัพยากรฯ ปฎิบัติภารกิจอยู่ในทะเลแล้ว และจากการที่ใช้การคำนวณแผนที่ ตามโปรแกรมของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ หรือ “ซาแมพ” โอกาสที่ผู้ประสบภัย อาจจะเล็ดลอดไปอยู่ในพื้นที่โซน 9 หรือเข้าสู่จังหวัดชุมพร โดยทางอากาศ ก็จะมีอากาศยานของกองทัพอากาศ ทำงานร่วมกับกองทัพเรือ ที่เรามีเครื่องบินดอร์เนีย และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำอยู่
ส่วนกองบินตำรวจก็ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์มาเสริมทัพอีก 2 ลำ เพื่อแสตนบายขึ้นไปสลับสับเปลี่ยนกันปฎิบัติภารกิจค้นหา โดยจากตลอด 3 วันที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าในช่วงเวลากลางคืน จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการค้นหามากเท่าไหร่นัก แม้กระทั่งกลางวันเองก็ยังหายากด้วยแรงลมที่แรง และอากาศไม่เป็นใจ แต่เวลาทองตอนนี้คือช่วงเวลาที่มีแสงในการพิสูจน์ทราบและเข้าช่วยเหลือ
พลเรือโทพิชัย ย้ำว่า ยังมีความหวัง และภาวนาขอให้เจอผู้ประสบภัยในสภาพที่ปลอดภัย ส่วนครอบครัวและญาติของผู้สูญหายที่จะเข้ามาติดต่อ ขณะนี้ได้จัดสถานที่ไว้ให้ทั้งหมดแล้ว เบื้องต้นทุกหน่วยได้ติดต่อไปทางญาติแล้ว รวมถึงนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะดูแลทุกนายให้ดีที่สุด โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งคนที่สามารถตอบประเด็นนี้ได้ดีที่สุด คือ “ผู้บังคับการเรือ” และโชคดีมากที่รอดชีวิต โดยตอนนี้ควรโฟกัสไปที่การช่วยเหลือผู้สูญหายเป็นหลัก
สำหรับประเด็นต่าง ๆ ที่นอกเหนือจากการช่วยเหลือนั้น ทุกอย่างยืนยันว่า มีขั้นตอนการปฎิบัติของเรือเพราะเรือลำหนึ่งที่จะออกราชการนั่น ต้องมีขั้นตอนว่าจะทำอะไรบ้าง โดยมีผู้บังคับการเรือที่จะต้องรู้ทั้งหมด จึงอยากให้รอความชัดเจนถึงการประสบอุบัติเหตุครั้งนี้
สำหรับประเด็นกำลังพล ที่ขึ้นเรือหลวงสุโขทัยไปนั้น ว่ายน้ำเป็นหรือไม่ ยืนยันว่า ส่วนใหญ่จะว่ายน้ำเป็นทั้งหมด ยกเว้นพลทหาร แต่ชื่อว่าการฝึกนั้น ก็ต้องมีการฝึกช่วยเหลือตัวเองกลางทะเลด้วย ก่อนจะส่งไปยังหน่วยงานต่าง ๆ โดยจะเร่งเดินหน้าค้นหาไปจนกว่าจะพบร่างสุดท้าย เพราะทุกคนคือครอบครัวทหารเรือ
และที่มีรายงานว่า ก่อนที่เรือหลวงสุโขทัย จะออกเรือก่อนเกิดเหตุอับปาง พบว่า มีใบส่งซ่อมตัวเครื่อง แต่กลับได้รับอนุญาตให้นำเรือออกทะเลได้ พลเรือโทพิชัย ชี้แจงว่า การแจ้งซ่อมเรือนั้น จะมีหน่วยตรวจสอบรายละเอียดการซ่อมการบำรุงรักษา ซึ่งการซ่อมนั้นจะเป็นรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ตู้เย็นเสีย อุปกรณ์อื่นๆในเรือเสีย ไม่ใช่เครื่องยนต์ และอุปกรณ์หลักในการเดินเรือ และกรณีนี้ ยังไม่ทราบว่า มีใบแจ้งซ่อม แต่เป็นคนอนุญาตให้เดินเรือได้ เพราะสภาพเครื่องยนต์ พร้อมในการออกทะเล เรือทุกลำที่ออกทะเลได้ต้องผ่านการอนุญาตจากตน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง
เมื่อถามถึงการที่ลูกเรือลอยคออยู่ในทะเลเกิน 48 ชั่วโมง จะส่งผลต่อความปลอดภัยหรือไม่ พลเรือโทพิชัย ชี้แจงว่า ส่วนตัวคงไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากร่างการและการฝึกฝนของ แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ยกกรณีที่สึนามิ เป็นเด็กเกาะขอนไม้ได้ถึง 7 วัน และกินน้ำทะเลประทังชีวิต ยังรอดชีวิตได้