จับสึกพระวัดดัง ลวงเสพเมถุนสามเณร แจ้ง 2 ข้อหาหนัก

11 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน เข้ารับตัว พระมหาอภิวรรณ อภิวณฺโณ หรือ นายอภิวรรณ จำปาวรรณ อายุ 41 ปี หลังตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ตามรวบตัวได้คาโรงแรมหรู ใกล้สนามหลวง กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับศาลจังหวัดน่านที่ จ.186/2565 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565

โดยพระมหาอภิวรรณได้หลบหนีออกจากวัดหลังจากถูกผู้ปกครองของสามเณรรายหนึ่งเข้าแจ้งความว่า ถูกกระทำชำเรา โดยก่อนหน้านี้ เพิ่งมีการเปิดโปงพฤติกรรมอื้อฉาวของ “พระปลัดธเนศ คงน้อย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำ วรวิหารพระอารามหลวง และหัวหน้าฝ่ายปกครองโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดดังกล่าว ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศสามเณร ก่อนที่เจ้าตัวจะหนีออกจากวัดและอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• บุกรวบ “พระมหาอภิวรรณ” ล่วงละเมิดสามเณร คาโรงแรม (มีคลิป)

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วางแผนออกอุบายว่าเป็นแม่บ้านของโรงแรม เข้าไปเคาะประตู เมื่อพระมหาอภิวรรณเปิดประตู เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวพร้อมหมายจับ และนำพระมหาอภิวรรณไปสึกจากความเป็นพระ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก พม.น่าน และบิดามารดา ได้พาสามเณร อายุ 15 ปี เข้าพบ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.ภ.จว.น่าน และ พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ พิชญ์วิชชาธรรม รอง ผกก.สส. สภ.เมืองน่าน พนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า สามเณรได้ถูกพระมหาอภิวรรณ ล่วงละเมิดทางเพศ

ก่อนหน้านี้ สามเณรรูปดังกล่าวได้บวชเรียนอยู่โรงเรียนนันทบุรี แผนกพระปริยัติธรรม ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุช้างค้ำ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 จนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 สามเณรได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้มีหน้าที่ปิดพระวิหาร แล้วพระมหาอภิวรรณเดินเข้ามาหาและบอกให้ไปช่วยงานเอกสารที่กุฏิเจ้าอาวาส สามเณรก็เข้าไปช่วยงานจนถึงเวลา 22.00 น. รู้สึกง่วงนอนจึงขอตัวกลับไปจำวัด แต่พระมหาอภิวรรณบอกว่าให้นอนที่ห้องของพระมหาอภิวรรณ

จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น. สามเณรรู้สึกตัวและสะดุ้งตกใจตื่น เมื่อถูกพระมหาอภิวรรณทำอนาจาร สามเณรจึงดิ้นขัดขืนแต่ไม่สามารถสู้แรงได้ ประกอบกับสามเณรมีอาการเจ็บหลัง พร้อมทั้งอาการเพลียจึงหลับไป จนเวลา 06.00 น. สามเณรได้สะดุ้งตื่นและพบว่าพระมหาอภิวรรณนอนอยู่ข้างๆ จึงรีบเก็บของออกไปจากกุฏิโดยไม่บอกใคร

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 สามเณรได้ไปเตรียมงานเข้าพรรษา พระมหาอภิวรรณได้ให้สามเณรไปช่วยงานเอกสารที่กุฏิเจ้าอาวาสอีก และถูกพระมหาอภิวรรณทำอนาจารอีกครั้ง

หลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ไปในสื่อต่างๆ สามเณร อีกรูปหนึ่งพร้อมบิดามารดาได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองน่านว่า ถูก พระมหาอภิวรรณ ผู้ต้องหารายนี้  ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองเลขานุการเจ้าอาวาสวัด กระทำชำเราในลักษณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่าพระมหาอภิวรรณชิงหลบหนีมาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงเร่งนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน พระมหาอภิวรรณให้การรับสารภาพว่า ได้ล่วงละเมิดสามเณรรูปดังกล่าวจริง แต่อยากให้สังคมรับรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับวัด เบื้องต้นจึงนำตัวไปทำการสึกพร้อมส่งตัวมาที่ สภ.เมืองน่าน ท้องที่ที่เกิดเหตุ แจ้ง 2 ข้อหาหนัก

• กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
• กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวเหตุเกิดขึ้นมานานแล้ว ทางผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความที่ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน จึงกำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้กระทำความผิด เมื่อไปติดตามตัวที่วัดผู้ต้องหาไม่อยู่วัด จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถจับกุมตัวได้ที่กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการเอาผิดผู้เสียหายอยู่แล้ว

ทั้งนี้คดีดังกล่าว สืบเนื่องมาจากกรณีการเปิดโปงพฤติกรรมอื้อฉาวของ “พระปลัดธเนศ คงน้อย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำ วรวิหารพระอารามหลวง และหัวหน้าฝ่ายปกครองโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดดังกล่าว ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศสามเณรลูกศิษย์ ที่บวชเรียนอยู่รูปหนึ่ง พร้อมทั้งข่มขู่ว่าหากสามเณรรายใดขัดขืน หรือนำเรื่องไปเผยแพร่ ก็จะไม่ได้รับทุนเรียนต่อ โดยทำมานานกว่า 2 ปี ทาง สภ.เมืองน่าน จึงตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายจับ แต่ระหว่างนั้นพระปลัดธเนศชิงหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปได้ก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว

จึงส่งผลให้สามเณร ลุกขึ้นมามาขอทวงความยุติธรรม เนื่องจากเป็นผู้หนึ่งที่ถูกกระทำเหมือนกัน

ไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์  รายงานจาก จ.น่าน