นายเวียน ศรีนุ่น อายุ 67 ปี เจ้าของสวนยางพารา ที่ ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง บอกว่า ได้ไปศึกษาดูงานกับเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง อ.สิเกา ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2561 จากนั้นประมาณปี 2563 ได้เงินช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 จำนวน 15,000 บาท มาซื้อต้นกล้าพันธุ์โกโก้ จำนวน 2 สายพันธุ์ ประกอบด้วย สายพันธุ์ชุมพร และสายพันธุ์ไอเอ็มวัน จนตอนนี้ต้นโกโก้อายุได้ประมาณ 2 ปีเศษ และเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ขณะที่ยางพาราอายุย่างเข้าปีที่ 4 ยังไม่เปิดกรีด
โดยต้นโกโก้เป็นพืชที่ปลูกง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนพืชร่วมยางชนิดอื่น ประมาณ 1 ปี 8 เดือน ก็เริ่มออกผลผลิต แต่ในตอนแรกอาจออกผลผลิตไม่มากนัก แต่ขณะนี้ประมาณ 100 ต้น กำลังทยอยออกผล ทำให้สามารถเก็บขายได้ผลใหญ่ มีน้ำหนักดี ประมาณ 2-3 ผล/กก. ที่ผ่านมาขายในราคากิโลกรัมละ 7-8 บาท แต่ขณะนี้ใน จ.ตรัง มีการจัดตั้งเครือข่ายส่งเสริมการปลูกโกโก้ขึ้นมา ที่ช่วยส่งเสริมการปลูก และจัดหาตลาด รวมทั้งเป็นจุดรวบรวมผลผลิต ทำให้มีบริษัทติดต่อเข้ามารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งถือว่าได้ราคาดีมาก
ซึ่งในแต่ละเดือนสามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 2-3 รอบ เพราะผลผลิตออกไม่พร้อมกัน ทำให้รอบนี้สามารถเก็บผลผลิตประมาณ 500 กก. คิดเป็นเงินประมาณ 5,000 บาท ซึ่งบางรอบก็เก็บได้ประมาณ 300 กก. แต่ละเดือนมีรายได้เกือบ 20,000 บาท แต่ในอนาคตเมื่อผลผลิตออกทั้งหมดจะสามารถเก็บได้เดือนละ 1-2 ตัน เพราะผลโกโก้น้ำหนักดี ไม่มีแมลงศัตรูพืชรบกวน และปลูกง่ายเมื่อเริ่มติดดอกใช้ระยะเวลาสั้นประมาณ 2 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้โดยโกโก้สามารถเก็บผลผลิตได้ทั้งปี อายุยืนประมาณ 70 ปี หรือตัดโค่นยางพาราปลูกใหม่ไป 2 รอบ ต้นโกโก้ก็ยังอยู่ โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งต้นโกโก้จะชอบ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ดี ระหว่างที่ยังไม่เปิดกรีดยางพารา และถึงแม้จะกรีดยางพาราได้ แต่น้ำยางสดราคาตกต่ำเหลือประมาณ กก.ละ 40 บาท และภาคใต้ฝนตกชุก ในแต่ละเดือนกรีดยางได้ไม่ถึง 15 วัน ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
นายเวียน ศรีนุ่น เจ้าของสวนยางพารา บอกอีกว่า แปลงโกโก้ของเขา ไม่ใช้สารเคมีในการฆ่าหญ้า แต่จะใช้วิธีตัดหญ้า และจะใส่ปุ๋ยอินทรีย์เท่านั้น เกรงว่าในวันข้างหน้าหากมีการส่งผลผลิตไปขายยังต่างประเทศ หากตรวจพบว่ามีสารเคมีปนเปื้อนจะกระทบกับผลผลิตโดยรวมของเกษตรกร โดยขณะนี้ทางเครือข่ายส่งเสริมการปลูกโกโก้ จะกำหนดให้แปลงโกโก้ของเขาเป็นแปลงสาธิตการปลูกโกโก้ เพราะถือเป็นแปลงแรกของ อ.วังวิเศษ และ อ.สิเกา ที่ปลูกและมีผลผลิตออกสู่ตลาด รวมทั้งความสำเร็จในการจัดการแปลง
นอกจากส่งจำหน่ายให้บริษัท จะต่อยอดการแปรรูปเองด้วย ซึ่งเป็นเรื่องทางเครือข่ายกำลังร่วมกันวางแผน เพื่อให้มีตลาดรองรับที่ชัดเจน นอกจากนั้นจะเห็นว่าต้นยางพารา ซึ่งอายุย่างเข้าปีที่ 4 ลำต้นจะใหญ่กว่ายางพาราอายุเท่ากันของแปลงอื่น เนื่องจากในช่วงหน้าแล้ง เขาต้องให้น้ำแก่ต้นโกโก้ ทำให้ยางพาราได้รับน้ำไปด้วย ส่งผลให้เกิดความเจริญเติบโตดี ลำต้นจึงใหญ่สมบูรณ์ เชื่อว่าในอนาคตเมื่อเปิดกรีดจะทำให้น้ำยางดี ซึ่งเป็นผลดีของการปลูกโกโก้เป็นพืชร่วมยาง