โดยเฉพาะภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษและภาษาจีน กำลังเป็นที่นิยมเนื่องจากเป็นความสามารถที่ต่อยอดได้หลายแง่มุม ทั้งด้านการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตหากมีโอกาสได้เรียนตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเป็นวัยที่เรียนรู้และจดจำได้ไว เข้าใจไวยากรณ์รวมถึงออกเสียงได้คล่องแคล่วและเป็นธรรมชาติ มากกว่าคนที่เริ่มเรียนตอนโตอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองบ้านไหนที่ลูกกำลังเข้าอยู่ช่วงวัย 2 ขวบครึ่ง - 12 ขวบ ซึ่งกำลังซนและมีความอยากรู้อยากเห็น อยากหาข้อมูลว่าจะให้ลูก เรียนภาษาสำหรับเด็กที่ไหนดี บทความนี้มีคำตอบพร้อมข้อแนะนำดีๆ ให้อย่างแน่นอน
1. มีหลักสูตรที่ครอบคลุม และเทคนิคการสอนที่เหมาะกับช่วงวัย
อย่างแรกเลยคือการพิจารณาว่าหลักสูตรมีความครอบคลุมทักษะพื้นฐานทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียนหรือไม่ รวมถึงบรรยากาศในห้องเรียนที่ควรมีตารางเวลาที่ยืดหยุ่น มีความเพลิดเพลิน สนุกสนาน กระตุ้นทักษะการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็กซึ่งอยู่ในช่วงวัยกำลังเล่นซนและเบื่อง่าย หากหลักสูตรและบทเรียนมีความเข้มงวดมากเกินไป ก็อาจทำให้เด็กไม่อยากเข้าเรียน ทำให้การเรียนไม่ต่อเนื่องได้
นอกเหนือจากเป้าหมายการเรียนที่ต้องบรรลุผลแล้ว การพาทำกิจกรรมนอกห้องเรียนหรือส่งเสริมเรื่องวัฒนธรรมและสังคมในด้านต่างๆ ยังช่วยเสริมมุมมองต่อโลกให้เปิดกว้างและคลุกคลีกับภาษาที่เรียนแบบใกล้ชิดมากขึ้นด้วย เช่น การเล่านิทาน พาอ่านเรื่องสั้น และการแสดงบทบาทสมมติ เป็นต้น
2. สอนโดยครูผู้สอนมากประสบการณ์
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเด็กวัยนี้ กำลังเล่นซนและไม่อยู่นิ่งกับที่อย่างแน่นอน คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกสถาบันที่สอนโดยครูผู้มีประสบการณ์ ใจเย็น เข้าใจธรรมชาติของเด็กวัยนี้ มีเทคนิคและวิธีการสอนที่ไม่ซ้ำซากจำเจเพื่อให้เด็กไม่เบื่อและมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนได้นานที่สุด และยังเห็นความสำคัญของการเรียน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ โดยให้เรียนรู้สลับไปกับการเล่น การเคลื่อนไหว และการทำกิจกรรมร่วมกัน
บรรยากาศและสภาพแวดล้อมก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ การเรียนคลาสเรียนขนาดเล็กที่มีเด็กจำนวนไม่มาก เพื่อให้เรียนและดูแลเด็กทุกคนได้ทั่วถึง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น อุปกรณ์การเรียน ของเล่น พื้นที่สำหรับการเรียนรู้ รวมถึงมาตรการความสะอาดและความปลอดภัยด้วย ดังนั้นนอกจากการดูข้อมูลและรูปภาพแล้ว หากมีเวลาลองเข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียนเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมจริง แถมบางสถาบันยังมีเปิดให้ทดลองลงเรียนในห้องเรียนจริง เพิ่มทางเลือกในการตัดสินใจด้วย
แน่นอนว่าทุกวันนี้มีสถาบันสอนภาษาสำหรับเด็กเกิดใหม่มากมาย ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนเกิดไม่แน่ใจ ว่าจะให้ลูกเข้าเรียนที่ไหนดี ลองตั้งต้นพิจารณาจากความมีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของสถาบัน โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาที่สนใจ ผ่านช่องทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ ออนไลน์คอมมูนิตี้ ไปจนถึงโพสต์รีวิวสถาบันสอนภาษาในแต่ละช่องทาง นอกจากนี้ คำแนะนำแบบปากต่อปากก็เชื่อถือได้ไม่แพ้กัน หากใครที่มีเพื่อน ญาติสนิท หรือคนรู้จักที่มีครอบครัวหรือเป็นผู้ปกครองที่มีประสบการณ์โดยตรง ก็สามารถขอคำแนะนำได้
5. เดินทางสะดวก ใกล้บ้าน และใกล้ชิดผู้ปกครอง
คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกสถาบันที่อยู่ใกล้บ้านเพื่อให้การเรียนมีความต่อเนื่อง ไม่ต้องเดินทางไกลเพราะอาจจะทำให้เด็กเหนื่อยล้าจากการเดินทางจนพาลไม่อยากมาเรียนได้ สถาบันสอนภาษาควรตั้งอยู่ในทำเลที่เข้าถึงได้ง่าย เดินทางสะดวก มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยที่ผู้ปกครองไว้วางใจได้ นอกจากนี้ การรายงานความคืบหน้าเรื่องการเรียน และอุปนิสัยในชั้นเรียนก็เป็นอีกจุดที่แสดงถึงความใส่ใจของครูผู้สอน ที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกอุ่นใจ ให้ความใกล้ชิดไว้วางใจกับทางโรงเรียน หมดห่วงเมื่อลูกเข้าเรียนได้
Speak Up Language Center สถาบันสอนภาษาสำหรับเด็กชั้นนำ ที่มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ภาษาจีนพื้นฐาน คอร์สโฟนิกส์ และโค้ดดิ้งสำหรับเด็ก ซึ่งล้วนเป็นความรู้พื้นฐานและทักษะสำคัญสำหรับเด็กในยุคดิจิตัลเป็นอย่างมาก รับสอนตั้งอายุ 2.5 - 12 ปี เริ่มต้นตั้งแต่วัยอนุบาลเรื่อยไปจนวัยประถมศึกษา สอนและดูแลโดยครูมืออาชีพมากประสบการณ์ เชี่ยวชาญเรื่องการสอนเด็กเล็กและสามารถดึงศักยภาพของในแต่ละช่วงวัยออกได้อย่างเต็มที่
จุดเด่นของ Speak Up ยังเป็นเรื่องการสอนภาษาที่ประยุกต์เข้ากับเทคนิคมอนเตสซอรี่ (Montessori Medthod) คำนึงถึงพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็นสำคัญ โดยทางสถาบันจะจัดสภาพแวดล้อมรอบห้องเรียนให้อยู่ในสภาพพร้อมเรียนรู้ได้อย่างเป็นอิสระ ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 กระตุ้นให้เกิดการคิดและแก้ปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งเป็นเทคนิคการสอนที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้ของเด็กโดยเฉพาะ
ด้วยเทคนิคการสอนที่เข้มข้นแต่ยังเพลิดเพลินสำหรับเด็กๆ Speak Up ยังมีกิจกรรมมากมาย ทั้งการร้องเพลงและการเล่นเพื่อการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้เลย ไม่ว่าจะเรียนภาษาอังกฤษหรือภาษาจีน เด็กๆ ก็จะเรียนรู้อย่างมีความสุข สนุกสนาน และสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืนแน่นอน
สนใจเรียนกับ Speak Up Language Center ติดต่อได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/SpeakUpLanguageCenter
Line: https://page.line.me/486cjbeb?openQrModal=true
Website: https://speakuplanguagecenter.com/